2012/09/01

Creamcheese pound cake with homemade cardamom orange marmalade

 
อาทิตย์ก่อนลงมือกวนมาร์มาเลดส้มไปแอบใส่ลูกกระวานลงไปเพื่อทดสอบความเข้ากันได้ ผลปรากฏว่ากลิ่นส้มกลบกลิ่นของลูกกระวานหมด ไม่ต่างอะไรกับตอนที่ไม่ได้ใส่ลูกกระวานเลย ทำเสร็จรอให้อุ่นนิดๆ ก็บรรจุใส่ขวดโหลตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะกินข้าว ไปๆ มาๆ กลับมาเช็คสต็อคอีกที พบว่าพร่องไปกว่าครึ่ง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่พากันเปิดไห (อุ๊ย ขวดโหล) คว้านเอาไปปาดหน้าขนมปังปิ้งกันเกือบทุกวันแบบไม่น่าเชื่อ เพราะรสชาดมันไม่ได้แค่หวานๆ เปรี้ยวๆ แต่มันขมด้วยนะซิ
 
 
เห็นจากอัตราการบริโภคแล้วคาดว่าหากยังยังวางทิ้งไว้ที่เดิมอยู่อย่างเก่า อจจะไม่มีโอกาสเอาเจ้าสิ่งนี้ไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ เลยจัดการใช้เวลาว่างวันหยุดอันน้อยนิด แต่ตารางแน่นเอี๊ยด แปลงร่างมันแบบง่ายๆ รีบๆ ซะหน่อย ลงตั๊วลงตัวที่ เค้กปอนด์ครีมชีสแบบหยอดหน้าด้วยมาร์มาเลดที่เข้ากั๊นเข้ากัน อร่อยทั้งแบบอบแล้วทานทันที หรือแช่เย็นทิ้งไว้ข้ามคืนให้เนื้อเค้กแน่นๆ แล้วค่อยทานก็ได้ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่จริตของผู้บริโภค
 
 
 
 
มาร์มาเลดส้มกับลูกกระวาน
ส้มเนเวล         4 ลูก
น้ำสะอาด        4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย   3 ถ้วยตวง
ลูกกระวาน      2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว        4 ลูก
เกลือนิดหน่อย
วิธีทำ
ล้างส้มให้สะอาด ผ่าครึ่งแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่ลงในหม้อเคลือบ เติมน้ำสะอาด น้ำตาล และเกลือลงไป นำไปต้มให้เดือดอย่างน้อย 10 นาที นำลงจากเตา ปิดฝาทิ้งไว้ข้ามคืน
วันต่อมา ใส่ลูกกระวาน และบีบน้ำมะนาว ลงในหม้อที่ต้มส้มเอาไว้ นำขึ้นเคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อนจนส่วนผสมลดปริมาณลงครึ่งหนึ่ง ระหว่างที่เคี่ยวต้องคอยช้อนฟองออกทิ้ง ใช้เวลาเคี่ยวรวมแล้วประมาณ 2 1/2 ชั่วโมง พักไว้ให้พออุ่น นำใส่ลงในขวดโหลที่มีฝาปิดสนิท สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนๆ  
 
 

เค้กปอนด์ครีมชีส
แป้งเค้ก                                 1 ถ้วยตวง
เนยจืด                               115 กรัม
ครีมชีส                                 75 กรัม
ไข่ไก่                                     2 ฟอง
น้ำตาลทราย                       3/4 ถ้วยตวง
เกลือ                                     1 ช้อนชา
เหล้าส้ม                                1 ช้อนโต๊ะ
มาร์มาเลดส้มกับลูกกระวาน  4 ช้อนโต๊ะ 
วิธีทำ
หั่นครีมชีสเป็นก้อนเล็กๆ พักไว้ให้นิ่มที่อุณหภูมิห้อง  เตรียมพิมพ์ที่จะใช้อบ โดยการทาเนยให้ทั่วพิมพ์ เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบนล่างทิ้งไว้ นำเนยจืดออกมาตัดเป็นก้อนเล็กๆ พักไว้แค่พอให้หายเย็นจัด ร่อนแป้งพักไว้ จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ในชามตีให้พอแตกเข้ากัน ใส่เหล้าส้มลงไปคนให้เข้ากันพักไว้
นำครีมชีสที่นิ่มแล้วใส่ลงไปในชามผสม หย่อนเกลือลงไป ใช้เครื่องตีแบบมือถือตีให้เนียน ทะยอยใส่เนยลงไปตีให้เนียนเข้ากัน ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละนิด ตีต่อจนขึ้นฟู ค่อยๆ รินไข่ลงไปลงไปครั้งละ 1/4 ส่วน ตีให้ไข่เข้ากันกับส่วนผสมของเนยและชีสก่อนที่จะใส่ไข่ส่วนต่อไปจนหมดส่วนไข่
แบ่งแป้งครึ่งนึงใส่ลงไปในส่วนผสมของไข่ เนย และครีมชีส ค่อยๆ ตะล่อมให้เข้ากันก่อนใส่แป้งส่วนที่เหลือ ตะล่อมจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียว เทใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้กะให้ส่วนผสมแค่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ กระแทกพิมพ์สัก 3-4 ครั้ง เพื่อเป็นการไล่อากาศออก หยอดหน้าด้วยมาร์มาเลดส้ม นำเข้าเตาอบประมาณ 25 นาที สำหรับพิมพ์ขนาดเล็กหลายพิมพ์  ส่วนพิมพ์ขนาดใหญ่ก็ประมาณ 45  นาที เมื่อเค้กสุกแล้ว นำออกมาพักไว้โดยทิ้งไว้ในพิมพ์จนเค้กอุ่นๆ จึงค่อยนำเค้กออกมา หากชอบเค้กนุ่ม ฟู แนะนำให้ตักทานเลย แต่ถ้าหากใครชอบแบบเนื้อแน่นให้รอให้ขนมเย็นสนิท แล้วค่อยนำใส่กล่องที่มีฝาปิดสนิทแช่ตู้เย็นข้ามคืน รับรองอร่อยแน่ค่า
 
 
 
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า



2012/08/25

To win your kids' heart; M&M brownie bar


เปิดบล็อคขึ้นมาลมแทบจับ หยากไย่เกาะเต็มไปหมด รีบเตรียมไม้กวาด หยิบไม้ขนไก่ ปัดๆ เช็ดๆ จนเคล็ดขัดยอกกว่าจะเอี่ยมอ่องอย่างเดิม โทษฐานของความขี้เกียจก็เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง เด็กๆ อย่าได้เอาเป็นแบบอย่าง
จริงๆ แล้วไม่ได้อัพบล็อคนานไม่ได้หมายความว่างดการทำขนมไปด้วย เพราะยังคงทำด้วยความถี่เท่าเดิม แต่จนด้วยคำบรรยายที่จะเอามาประกอบรูปลงบล็อคต่างหาก ก็เลยเลือกทางสายกลางง่ายๆ ไม่ทำอะไรปล่อยไว้เฉยๆ ดีที่สุด เพราะหากจะให้เอาแต่รูปมาลงบล็อคเกรงว่าจะฝืด พาลทำให้คนติดตามที่มีอยู่เดิมอันน้อยนิดลดจำนวนลงไปจนไม่เหลือใครเลย


เมื่อร้างการอัพบล็อคนานพาลทำให้เสียสติเมื่อกลับมาเริ่มอัพใหม่ ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เปิดตัวบล็อคครั้งแรก อะไรๆ มันดูงุ่มๆ ง่ามๆ งกๆ เงิ่นๆ ไปหมด นี่ขนาดว่าเลือกทำอะไรที่ง่ายมากไม่ซับซ้อนสุดยอดขนมพิชิตใจเด็กบราวนี่ ที่มีทั้งช็อคโกแลตเข้มข้น และสีสันสุดแสบจาก M&M สูตรและวิธีทำบราวนี่ก็แสนจะง่ายๆ แค่เสียเวลาเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย (รึเปล่า) ตรงต้องสาด M&M ลงไปบนหน้าขนมก่อนอบแค่นั้นเอง


วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ใครที่มีลูกสมุนเล็กเด็กแดงอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน ลองชวนกันมาช่วยทำได้แบบไม่ต้องกลัวแป็ก เพราะแอบกระซิบดังๆ ว่า "บระเจ้าจอร์จมันง่ายมากกกกก"


M&M บราวนี่
ไข่ขาว                         2 ฟอง
ไข่แดง                        2 ฟอง
ดาร์คช็อคโกแลต    100 กรัม
เนยจืด                     100 กรัม
น้ำตาลทรายแดง       70 กรัม
แป้งอเนกประสงค์      2 ช้อนโต๊ะ
ผงโกโก้                     1 ช้อนโต๊ะ
วานิลลา                     1 ช้อนชา
เกลือ                      1/4  ช้อนชา
M&M ปริมาณตามชอบ
วิธีทำ
เตรียมพิมพ์สี่เหลี่ยม โดยรองพิมพ์ด้วยด้วยถ้วยกระดาษซิลิโคนรองอบ  เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบนล่าง รอไว้ ร่อนแป้งพักไว้
นำเนย และ ดาร์คช็อคโกแลตเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที นำออกมาใส่ผงโกโก้ลงไป คนให้เนียนเข้ากัน พักไว้ให้พออุ่น
นำไข่ขาว น้ำตาลทรายแดง วานิลลา และเกลือ ใส่ลงในชามผสม ใช้เครื่องตีแบบมือถือตีด้วยความเร็วสูงสุดจนตั้งยอดกลางถึงแข็ง ทะยอยเติมไข่แดงลงไป ตีต่อด้วยความเร็วกลาง อีกประมาณ 3 นาที ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน


จากนั้นทะยอยเติมส่วนของช็อคโกแลตลงครึ่งนึง ตะล่อมให้เข้ากันก่อนที่จะเติมช็อคโกแลตส่วนที่เหลือ



เทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วย M&M นำเข้าเตาอบประมาณ 13-15 นาที นำออกจากเตาอบพักไว้ให้หายร้อน ใช้พลาสติกแรปปิดทั้งพิมพ์นำเข้าตู้เย็นอย่างน้อยสองชั่วโมงเพื่อให้บราวนี่เซตตัวตัดแบ่งได้ง่ายและได้ชิ้นที่สวยงาม หรือใครรีบร้อนไม่สะดวกรอสามารถรับประทานอุ่นๆ แบบไม่ต้องเพิ่งตัวช่วย หรือจะเสริฟเคียงกับไอศครีมรสโปรดก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด



อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า








 

2012/07/23

Chicken Farm Baker's Project # 46 - let's bake your favorite tart; Bacon cheese tart


โอ้ยยยย บระเจ้า เจอพิษมือ เท้า ปาก เปื่อย ที่ระบาดอยู่ทั่วประเทศเข้าไป โรงเรียนก็ต้องหยุดเพื่อตัดตอนการระบาด พลอยทำให้เวลาว่างของคุณแม่เป็นอัมพาตไปครึ่งเดือนด้วยเช่นกัน เมื่อเวลาว่างหายการบ้านฟาร์มไก่ก็ชะงักตามไปติดๆ มีเวลามาปัดฝุ่นอีกทีก็ใกล้สิ้นเดือนซะแล้ว หวังว่าคุณยา sana-madebylove โฮสต์คุณแม่ลูกห้าคงให้อภัยและยกผลประโยชน์แห่งการล่าช้านี้ให้แก่จำเลยด้วยนะค้า
การบ้านฟาร์มเดือนนี้คุณยาอยากให้สมาชิกฟาร์มทำทาร์ตหรือพายรับประทานกันเป็นโอทอปในบ้าน อันนู้นก็น่าทำ อันนี้ก็น่าลอง เยอะแยะเต็มไปหมดตามประสาคนห่างครัวนาน ไม่ลงตัวซักทีเลยต้องหาผู้พิพากษาเพื่อตัดสินคดีซะหน่อย จะเป็นใครไปไม่ได้ก็สองพระหน่อเนื้อที่แกร่วเบื่อพ่อเซ็งแม่อยู่ที่บ้านนี่แหละ เพราะถ้าผ่านดารตัดสินแล้วไม่กินเนี่ยมีเจ็บ เป็นการตัดปัญหาทำแล้วเหลือที่ได้ผลชะงัดนัก เหมือนกับคติที่ว่าเลือกแล้วต้องรับผิดชอบ ฮ่าๆๆๆๆๆ


อุตส่าห์จิ้มทั้งรูปและสาธยายทั้งสรรพคุณให้ฟัง หวังว่าลูกจะคล้อยตามในแต่ละสิ่งที่แม่อยาก แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะตัวพี่ดันเห็นโฆษณาพิซซ่าในทีวี เลยยุให้ตัวน้องแข็งข้อ จากหวานในจินตนาการของแม่เลยต้องเปลี่ยนเป็นคาวตามใจและปากของลูก ตัดสินใจว่าเจอกันทึ่ตรงกลาง ขอเปลี่ยนแป้งพิซซ่าเป็นแป้งทาร์ตแล้วประโคมหน้าให้ละม้ายพิซซ่าแล้วกันนะ แม่มันจะได้ส่งการบ้านฟาร์มได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกเป็นฝูงเลยทีนี้ รอดตัวแบบเฉียดๆ ไปอีกเดือน


ในส่วนของแป้งทาร์ตนั้นก็ไม่ได้คิดเอง ฉกของคนอื่นเค้ามาตลอด เป็นแป้งทาร์ตแบบหวานแล้วแอบปนอัลมอนด์ป่นด้วย (อาจจะไม่เข้ากับความคาวของเมนู แต่เป็นความชอบโดยส่วนตัวคงไม่เป็นไรเนอะ) ทำออกมาแล้วแบบว่าเริ่ดมาก ยังไม่ทันหายร้อน แทบจะไม่มีโอกาสถ่ายรูปก็หมด แค่นี้คงพอการันตีถึงความอร่อยได้โดยไม่ต้องบรรยาย สำหรับสูตรและวิธีทำนั้นหมูมากแต่ไม่มีเวลาพิมพ์ เลยเล่นง่ายแปะลิงค์ให้คลิ๊กก็แล้วกันนะค้า ขออภัยในความมักง่ายมา ณ ที่นี้ด้วยค่า


แป้งทาร์ตแบบหวาน
ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่


สลัดเบคอน
เบคอนหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า
มะเขือเทศหั่นเต๋า
น้ำสลัด
ผักชีนิดหน่อย
วิธีทำ
คลุกให้เข้ากันรอใส่ในแป้งทาร์ตที่อบแล้ว


ทาร์ตเบคอนชีส
แป้งทาร์ต                1 สูตร
สลัดเบคอน  
ชีสแผ่น                3-4 แผ่น
ไข่ไก่                       1 ฟอง
พริกชี้ฟ้าแดงซอย
ต้นหอมซอย
พริกไทป่น
วิธีทำ
กรุแป้งทาร์ตลงในพิมพ์อบ อบแป้งทาร์ตให้สุกก่อน จากนั้นตักสลัดเบคอนลงไปในแป้งทาร์ต เรียงชีสแผ่นลงไปด้านบน ตอกไข่ใส่ลงไปบนชีส โรยด้วยพริกซอย จากนั้นนำเข้าเตาอบแค่พอให้ไข่กึ่งสุกและชีสเยิ้ม นำออกจากเตา โรยด้วยต้นหอมซอย และพริกไทป่น




อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

2012/07/05

When east meets west, Palm sugar belgium waffles


ได้โอกาสอัพบล็อคกับเค้าซะทีกับขนมชิ้นโปรดของทั้งคุณสามีและลูกๆ เห็นเป็นต้องซื้อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำให้ศรีภรรเมียต้องน้อยใจค้อนขวับๆ เลยตั้งปณิธาณเอาไว้ว่า ซักวันนึงจะต้องทำให้ได้ จะได้รู้กันว่าไผเป็นไผ ฮ่าๆๆๆ
แล้วซักวันนั้นก็มาถึง หลังจากหง่อมอยู่บ้านวันอาทิตย์กันยกครัว ไม่อยากกระดิกเนื้อกระดิกตัวออกไปไหน เช้าก็แล้ว สายก็แล้ว กลางวันก็แล้ว มีแต่อาคารคาวตกถึงท้อง ตัวเล็กตัวน้อย เริ่มโวยวายกระหายอยากหวาน สต๊อคขนมแห้งก็หมด เดือดร้อนต้องจัดหาในเวลากระชั้น จัดการสำรวจโพล ออกความคิดเห็นว่าเสียงข้างมากต้องการอะไร คะแนนเป็นเอกฉันท์ในทันทีทันใดว่า วาฟเฟิล แถมด้วยคำพูดท้าทายว่าจะทำได้เหมือนที่เค้าขายเร้อ ฟังแล้วลมออกหู รุดไปรื้อตู้เก็บของแทบไม่ทัน


ปัญหาที่เข้ามากระแทกหน้าจังเบ้อเริ่ม ก็คือไม่มีเจ้าน้ำตาลกรวดขาวๆ หวานๆ ปะแล่มๆ แบบที่เค้าทำขายกัน มีแต่ความดันทุรังสูงเลยจัดการออกแรงทุบน้ำตาลมะพร้าวออกเป็นเสี่ยงๆ กะว่าจะเอาให้พอกล้อมแกล้มไป ที่ไหนได้ อร่อยเว่อร์ (ขอโม้) เพราะพอก้อนน้ำตาลมะพร้าวมันดดนความร้อน มันเยิ้ม หอม และหวานไม่แหลม ยิ่งพอเยิ้มไหลออกมาเคลือบด้านนอกของวาฟเฟิลแล้วด้วย เหมือนกับกินวาฟเฟิลเคลือบคาราเมลเลย ยังไงยังงั้น ทีนี้เลยยุ่งที่ดันเตรียมแป้งไว้น้อย เลยเกือบกลายเป็นกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ชุลมุนอุตลุดอันนี้ของชั้นอันนั้นของเธอ พี่ไม่ยอมน้องน้องไม่แบ่งพี สุดท้ายก็โยนความผิดมาที่แม่ ว่าไม่รู้จักทำให้เยอะเข้าไว้ ก็โถๆๆๆ ทำเยอะทีไรก็เหลือให้แม่มันเจ็บใจทุกที แล้วทีนี้ใครจะกล้าทำเยอะละค้า
โม้มากโม้เยอะมักไม่รุ่ง มุ่งหน้าไปทำด้วยกันเลยดีกว่า ในส่วนวิธีทำนั้นก็ไม่เคยคิดเองอยู่แล้ว ลอกตลอด ฮิ้วววว


วาฟเฟิลน้ำตาลปี๊บ
น้ำสะอาดอุ่น         1/8 ถ้วยตวง
ยีสต์                         1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย            1 ช้อนโต๊ะ
แป้งเอนกประสงค์    1 ถ้วยตวง
เกลือ                     1/8 ช้อนชา
ไข่ไก่                       2 ฟอง
เนยจืดละลาย        1/2 ถ้วยตวง
วานิลลา                   1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บสับหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
นำน้ำ น้ำตาล และยีสต์ใส่ลงในชาม พักไว้ในที่มืดประมาณ 15 นาที จนยีสต์เพิ่มปริมาณขึ้น เคล้าแป้งและเกลือใหเข้ากันในชามผสม ทำให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นเทส่วนของยีสต์ลงไปกลางหลุมแป้ง ใช้ไม้พายคนให้พอเข้ากัน ใส่ไข่ลงไป


ใช้ตะกร้อมือตีให้เนียนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ทะยอยเติมเนยละลายลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เนียนเข้ากันจนหมดส่วนของเนยจะได้ส่วนของแป้งที่ค่อนข้างเหลว พักชามแป้งไว้ในที่มืดและชื้นประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนก้อนแป้งเพิ่มขนาดเป็นสองเท่า



จากนั้นเทน้ำตาลปี๊บสับหยาบลงไป ค่อยๆ ใช้ตะกร้อมือคลุกให้น้ำตาลกระจายทั่วก้อนแป้ง แต่ไม่คลุกนานจนละลาย


ตักก้อนแป้งใส่ลงในเครื่องทำวาฟเฟิล ทำตามขั้นตอนที่แต่ละเครื่องแนะนำ




อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

2012/06/16

Chicken Farm Baker's Project # 45 - Babà; Babà au safran et à l'eau de rose


การบ้านฟาร์มไก่ส่งแล้วค่า เดือนที่แล้วว่าช้าแล้ว เดือนนี้ช้าหนักเข้าไปอีก ทั้งๆ ที่วาดโครงการไว้ในหัวตั้งนานแต่ก็ยังไม่วายเอ้อระเหยลอยชายอีกเกือบเดือน ครั้งนี้คุณแก้ม it's gemmi เป็นเจ้าของไอเดียออกโจทย์การบ้าน ซึ่งเจ้าการบ้านชิ้นนี้บอกกันตามตรงเลยว่าไม่มีความรู้พื้นฐานเอาซะเลย เอาเป็นว่าตั้งแต่ชื่อก็บอดสนิท รูปภัณฑ์สัณฐานนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย นี่ถ้าหากคุณแก้มไม่แปะลิงค์ตัวอย่างไว้ คงได้งมหอยโข่งกินไปอีกนาน




จากการตีความแบบกระท่อนกระแท่น สรุปได้ว่าขนมที่ชื่อสั้นๆ ง่ายๆ ว่า Babà นี้ เป็นเค้กที่ขึ้นฟูด้วยยีสต์ งงแฮะ ฮ่าๆๆๆๆ แช่ให้ชุ่มในน้ำเชื่อมที่ใส่เหล้า ออริจินัลของเค้านั้นเป็นเหล้ารัม เพราะสามีงดเหล้า ตัวข้าพเจ้าก็แพ้ และลูกทั้งสองยังไม่อยู่ในวัย และกำลังหลงไหลกลิ่นอายภารตะ (จากครูสอนโยคะสุดหล่อ) ดังนั้นจึงริอ่านอุตริจับเอามันมาแปลง โดยจัดการตัดแอลกอฮอล์ ออกไปแล้วแช่อิ่มเค้กก้อนน้อยในน้ำเชื่อมสีเหลืองทอง สำหรับใช้เชื่อมแป้งทอดลูกกลมๆ ของคนอินเดีย ที่มีชื่อเก๋ไก๋ชไรเดอร์ว่า Gularb jamun น้ำเชื่อมที่ว่านี้ได้จากการต้มน้ำ น้ำตาล กับหญ้าฝรั่น ลูกกระวาน และดอกกุหลาบ แต่ด้วยความที่หาลูกกระวานไม่ได้ ก็เลยไม่ครบองค์ แต่ไม่เป็นไรไม่มีสิ่งใดในโลกสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว น้ำเชื่อมที่ได้ก็เลยมีแค่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแค่ดอกกุหลาบและหญ้าฝรั่น ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือปลอดดีกรี แค่นี้ก็แจ่มแล้ว



Babà
แป้งอเนกประสงค์   1 ถ้วยตวง
ยีสต์                        1 ช้อนชา
ไข่ไก่                      2 ฟอง
น้ำสะอาด                1 ช้อนโต๊ะ
ดอกกุหลาบแห้ง     5 ดอก
เนยจืดนิ่ม             1/4 ถ้วยตวง
เกลือ                    1/8 ช้อนชา
วิธีทำ
ใส่ยีสต์ลงไปในแป้ง คลุกให้พอเข้ากันพักไว้ นำไข่ เกลือ น้ำ และดอกกุหลาบใส่ลงในชาม ใช้ตะกร้อมือตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน ใส่ส่วนของแป้งลงไป


ตีต่อด้วยความเร็วต่ำประมาณ 3 นาที ทะยอยใส่เนยลงไป ตีต่อให้เนียนเข้ากัน ใช้พลาสติกแรปปิดชามเอาไว้ พักชามไว้ในที่มืด ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือพอให้แป้งขึ้นเป็นสองเท่า จากนั้นใช้ไม้พายคนไล่อากาศออกจากก้อนแป้ง ตักแป้งหยอดลงในพิมพ์ที่หาเนยบางๆ เอาไว้แล้ว โดยตักหยอดใส่ประมาณครึ่งของพิมพ์ นำพิมพ์ไปพักไว้ในที่มืดอีกประมาณ 15 นาที ให้ก้อนแป้งขึ้นอีกรอบ


ระหว่างนี้ก็เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 อศาเซลเซียส ไฟบนล่าง รอไว้ เมื่อครบเวลาก็นำเข้าอบ อบประมาณ 10-12 นาที สำหรับพิมพ์ขนาดเล็ก หากเป็นพิมพ์ขนาดใหญ่ก็ต้องเพิ่มเวลาขึ้น  ระหว่างรอเค้กสุกก็เตรียมส่วนของน้ำเชื่อมต่อ





น้ำเชื่อมหญ้าฝรั่นและดอกกุหลาบ
น้ำสะอาด                     1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                1 ถ้วยตวง
หญ้าฝรั่น                     4 ก้านฝอย
ดอกกุหลาบแห้ง        10 ดอก
วิธีทำ
นำทุกอย่างใส่ลงในหม้อขึ้นตั้งไฟจนเดือด หลังจากน้ำเชื่อมเดือดแล้วเคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 5 นาที





Babà au safran et à l'eau de rose
Babà
น้ำเชื่อมหญ้าฝรั่นและดอกกุหลาบ
วิธีทำ
นำเค้กอกจากพิมพ์ แช่เค้กที่ยังอุ่นๆ อยูในน้ำเชื่อมทันทีโดยไม่ต้องรอให้น้ำเชื่อมเย็นตัวลง ทิ้งไว้ให้ตัวเค้กซับน้ำเชื่อมจนชุ่มประมาณ 3-5 นาที หากชอบให้เนื้อเค้กฉ่ำมากๆ ก็แช่ทิ้งไว้ได้นานตามต้องการ สามารถรับประทานพร้อมกับวิปปิ้งครีม และผลไม้รสอมเปรี้ยวได้ทุกชนิด เพื่อป้องกันการสำลักความหวาน



อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

2012/05/26

Self-delicious without any of frosting; Japaneese cotton cheesecake


เบื่อตัวขี้เกียจที่สลัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุดซักที ขี้เกียจถึงขนาดที่ว่าคุณสามีประชดประชันให้ลดอัตราการหายใจไปเลยให้มันรู้แล้วรู้รอด ก็คนมันไม่อยากหรอกไอ้ขี้เกียจนี่นะ แต่ทำไงได้มันเป็นเองโดยธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งใจเป็นนี่นา

2012/05/18

Raspberry pistachio montblanc, close to perfect but not quite


เบื่อตัวเองจริงอะไรจริงที่ตอนนี้นอกจากจะไม่เลิกบ้าพิสถั่วพิสทาโอแล้วยังดันหาซื้อมาเพิ่มเติมอีกต่างหาก วัตถุดิบประเภทถั่วนี่มันช่างมีอายุหลังจากเปิดหีบห่อแล้วสั้นนัก หนทางเดียวที่จะทำได้เพื่อไม่ให้เสียของและเสียเงินเปล่าคือหาทางใช้มันให้เร็วที่สุด จะกินเปล่าก็กะไรอยู่แปรรูปเป็นขนมสวยๆ ดีกว่าเป็นได้ทั้งอาหารตาและอาหารปาก สบโอกาสเข้าไปเสาะแสวงหาวัตถุดิบดีๆ ในเมืองกรุง เลยหอบหิ้วพะรุงพะรังมาร้อยแปดพันอย่าง ทั้งของสดของแห้ง ในยุคข้าวยากหมากแพงต้องใช้เงินเพิ่มเกือบเป็นสองเท่าเพื่อให้ได้ของที่ต้องการแบบเดิมๆ กลับมา รู้ทั้งรู้ว่ามันแพงเกือบเท่าตัว แต่เจ้ากิเลสตัวดีก็ไม่ปรานีใคร สุดท้ายก็กวาดกลับมา เลยต้องรับสภาพหูชาไปตามระเบียบ

2012/05/14

Celebrate the almost forgotten wedding anniversary year 8th with super easy pistachio cream tart



เง้อออออ วันครบรอบแต่งงานปีที่แปดผ่านไปไวเหมือนโกหก สารภาพแบบไม่อายเลยว่า ลืมสนิทศิษย์ส่ายหน้า ไม่ได้เอะใจตั้งแต่เช้ายันเย็นจนเกือบจะปาเข้าไปทุ่มแล้วถึงรำลึกได้ ถือว่าโชคยังเข้าข้างพอดีที่คุณสามีตอกกะดึกยังไม่กลับบ้าน เลยสบโอกาสศรีภรรยาตาลีตาเหลือก หงายเหงือกเงิบๆ ใช้เวลาอันจำกัดจำเขี่ยรีบไปทำขนมเอาหน้าเพื่อตบตาคุณสามีว่าศรีภรรยาคนนี้ไม่ลื้มไม่ลืมวันสำคัญแบบนี้ไปได้หรอกน่านะจะบอกให้

2012/05/05

Chicken Farm Baker's Project # 44 : A piece of TEA time; Jasmine tea chiffon cake


การบ้านฟาร์มไก่มาแล้ว เสิร์ฟแบบร้อนๆ แบบเพิ่งจะสลัดดินที่พอกหางออกไปหมาดๆ ที่พูดอย่างงั้นก็เพราะว่าโจทย์การบ้านนี้ คุณอุ้ม vanilla orchid จากแดนไกลเธอให้เอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วนู้นแน่ะ แต่ดันส่งการบ้านซะต้นเดือนใหม่ ยิ่งเห็นหน้าตาการบ้านเข้าไปคุณอุ้มเธอคงลมแทบจับ เล่นเอาง่ายแต่ไหงใช้เวลานานมากกกกก ต้องขอโทษด้วยนะค้า

2012/04/25

Canned condensed milk with any of your selection; No need to queue up at any bread stall, get yours at home


สมัยก่อนหากมีใครตั้งคำถามว่าเมืองไทยที่เราอาศัยอยูนี้มีกี่ฤดู คำตอบที่ได้คงเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว แต่หากถามตอนนี้คำตอบที่ได้คงไม่ใช่ซะแล้วกระมังจากที่เคยมี 3 ฤดู คงเหลือแค่เพียง 1 ฤดู นั่นก็คือฤดูร้อน เพราะตั้งแต่ต้นปีมานี้จำนวนวันที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส แทบจะหาไม่ได้บนปฏิทิน

2012/04/22

Summer time begins with mango-coconut milk creme chiboust layered delight


สัญญาณอีกอย่างนึงที่บ่งว่าหน้าร้อนที่บ้านเราเข้ามาเยือนแล้วนั่นก็คือไม่ว่าจะหันทางซ้ายก็เห็นแม่ค้าขายมะม่วงสุก เบือนหนีไปทางขวาก็ยังคงเจอแม่ค้าจัดกระจาดมะม่วงสุก ขนาดที่ว่าอุตส่าห์แหงนหน้าหนีขึ้นฟ้าก็ไม่พ้นเห็นมะม่วงสุกที่ยังไม่ได้สอยลงจากต้นอยู่ดี มองไปทางไหนก็เหลืองนวลตาไปซะหมด มีทั้งอกร่อง น้ำดอกไม้ เขียวเสวย โชคอนันต์ และอื่นๆ ที่ไม่ทราบสายพันธ์ุอีกนับไม่ถ้วน เมนูยอดฮิตในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นข้าวเหนียวมะม่วง ที่กล้าพนัันได้เลยว่าไม่มีครัวเรือนใดที่พลาดโอกาสบริโภคเมนูนี้ไปเป็นแน่แท้
ยิ่งที่บ้านมีต้นมะม่วงเองยิ่งหนักใหญ่ กินมันได้ทุกวันด้วยความเสียดาย จนตอนนี้ตัวเปลี่ยนสีไปใกล้เคียงสีของมะม่วงอยู่แล้ว แหม๊ก็ลูกมะม่วงมันขยันสุกได้สุกดี สุกมันทุกวัน วันละสิบๆ ลูก ครั้นจะเอาไปขายก็ไม่สันทัดซะด้วย เลยต้องหาวิธีกินแบบใหม่ให้มันคล่องคอยิ่งขึ้น
ผู้บริโภคหลักของเมนูใหม่ที่จะคิดประดิดขึ้นนี้ส่วนใหญ่สูงวัยและไม่โปรดครีมเลี่ยนๆ อันได้แก่พ่อแม่สามีและบรรดาเครือญาติ แต่ศรีสะใภ้ได้โล่เยี่ยงเราดันอยากจะทำเค้ก เลยต้องทำการบ้านหนักหน่อยว่าจะให้มันออกมารูปแบบไหนดี ที่ทั้งเว่อร์ เยอะ และอร่อย

2012/04/09

Basic pistachio biscuit joconde


"Biscuit joconde imprimé is a light, almond spongecake with a decorative design baked into it. The joconde batter is baked in thin sheets, and its flexibility allows the pâtissier to use it to line the outsides of Charlottes or mousses. [Incidentally, "La Joconde" is the French name of the Mona Lisa]. Entrement, a French term literally meaning "between servings", refers to a small dish served between courses, or more commonly, a dessert dish. As a dessert, entrements are layered cakes alternating numerous layers of spongecake or génoise and pastry cream. So, when put together, the joconde imprimé serves as the outer "wrapper" of the entrement filling." เป็นคำนิยามที่เข้าใจง่าย (รึเปล่า) แต่แปลเป็นไทยแล้วงงๆ ด้วยความที่ด้อยความสามารถทั้งไทยและอังกฤษ หุหุหุ แต่ไม่เป็นไรมั่วเก่ง พอถูๆ ไถๆ สีข้างประเมินจากวิธีทำได้คร่าวๆ ว่าเจ้า biscuit joconde นี้ เป็นการทำสปันจ์เค้กเนื้อเบาที่มีส่วนผสมของถั่วอะไรก็ได้ป่นละเอียด และลดทอนปริมาณแป้งที่ใช้ในสูตรของสปันจ์เค้กธรรมดาลง การผสมเป็นแบบสองขั้นตอน คือต้องทำส่วนของแบทเทอร์ข้นของแป้ง อัลมอนด์และไข่ก่อน แล้วจึงทำส่วนของเมอร์แรงไข่ขาวมาตะล่อมผสมอีกที นิยมเอาไปเป็นส่วนประกอบในการทำเค้กชั้น เพื่อเพิ่มลูกเล่นลดความจำเจ เหมือนจะง่ายแต่ไม่หมูเลย เพราะวันนี้บ้าพลังไม่ได้ใช้แค่ถั่วอัลมอนด์เพียงอย่างเดียวแต่อยากมากเรื่องใส่ถั่พิสทาชิโอลงไปด้วย เลยทุลักุเลพอควรกับครั้งแรก แต่ก็ไม่เกินความสามารถมั่วๆ ไปได้ ออกมาน่าพอใจทีเดียว

2012/03/29

Warabi mochi, classical japanese wagashi without any baking skill


เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้ชะแว๊บไปดูหน้ากระดานบนเฟสบุ๊คของคุณหมอก้อย ฟันคุดน้อยซี่ที่ 7มิตรใหม่ที่รู้จักกันผ่านทางสังคมทำขนมที่ในความเป็นจริงไม่เคยพบปะกันแบบตัวเป็นๆ เลยซักครั้ง คุณหมอผู้น่ารักได้แปะลิงค์ที่น่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับขนมชนิดหนึ่ง บังเอิญว่าเจ้าขนมชิ้นนี้เป็นขนมที่โดยส่วนตัวแล้วชอบมาก มันเป็นขนมดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นซึ่งมักจะเอาไว้รับประทานคู่กับน้ำชา ลักษณะเป็นก้อนแป้งนุ่มๆ หยุ่นๆ รสหวานปะแล่มๆ คลุกกับผงถั่วเหลืองคั่วป่นที่คนญี่ปุ่นเค้าเรียกว่า "คินาโกะ" เวลาจะบริโภคขนมชิ้นนี้ก็จะราดซีรัปน้ำตาลอ้อยลงไปก่อนเพื่อเพิ่มความหวานและหอมมากยิ่งขึ้น ซึ่งซีรัปน้ำตาลอ้อยนี้ใครใคร่จะโชว์ป๋าเคี่ยวเองก็ดี หรือจะใช้บริการแบบสำเร็จรูปที่บรรจุกระปุกขายในชื่อ ""molasses" ก็ย่อมได้ บรรยายมาจนหมดคำพูดละเฉลยดื้อๆ เลยแล้วกันเจ้าขนมชิ้นนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "วาราบิโมจิ" ค่า

2012/03/27

Chicken Farm Baker's Project # 43 : Meringue....Whip me if you can!!!!!!; Sakura jelly macarons


วู้ววววว การบ้านฟาร์มไก่ได้โจทย์มาตั้งนานแล้วแต่เพิ่งทำเอามันตอนใกล้สิ้นเดือนอีกแล้วครับพี่น้อง ก็ต้องโทษที่โรงเรียนปิดภาคเรียนแล้ว แต่คุณแม่คนดีที่หนึ่งไม่มีนโยบายจ่ายเงินให้เรียนซัมเมอร์เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ฟังดูดี๊ดูดีเนอะแต่แฝงนัยสำคัญเป็นเพราะแม่มัน "งก" เลยต้องรับกรรมกระเซอะกระเซิงเลี้ยงลูกน้อยกลอยใจทั้งคู่ไปจนลืมวันลืมคืนนั่นเอง จบข่าว

2012/03/23

Always shiny in every party; Custard cream brownie cupcake with strawberry buttercream frosting


"คุณพ่อคุณแม่คะศุกร์นี้เป็นวันที่มีการเรียนการสอนวันสุดท้ายของเทอมนี้นะคะ ที่โรงเรียนมีจัดนิทรรศการแสดงผลงานของน้องพลูและน้องเพลินด้วยค่ะ เรียนเชิญคณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะคะ" โอ้ยยยย ปิดเทอมอีกแล้ว ยังหาแพลนบีไว้รองรับทะโมนทั้งคู่ไม่ได้เลย กลุ้มว้อย!!!! แต่ที่กลุ้มหนักกว่าคือศุกร์นี้จะงัดขนมอะไรไปอวดเพื่อนลูก พ่อแม่เพื่อนลูก ตลอดจนบุคคลากรทุกคนที่โรงเรียนดี เครียดจนแก้มห้อยย้อยจนเลยคาง ก็คนมันขี้อวดนี่นาทำไงได้ อิอิอิ

2012/03/21

Honey-lime cream cheese danish with blueberry filling, completely be your vegetarian choice.


หาเรื่องทำขนมได้อีกแล้ว ก็คนมันเหงามือนี่นา ครั้งนี้ตั้งใจทำออกมาเพื่อจะไปเอาหน้ากะคุณครูสอนโยคะจากเมืองภารตะกันเลยทีเดียว ก็เหตุมาจากความซาบอกซึ้งใจที่คุณพี่ท่านได้ประเคนทั้งท่าบิดสีข้างจนเกือบจะขาดออกจากกัน ท่าถ่างจนหว่างขาแทบจะฉีก ท่าก้มจนนมแทบจะเรี่ยบนพื้น อีกทั้งท่าอะไรต่อมิอะไรอีกสารพัดภายในเวลาแค่ชั่วโมงสิบห้านาทีแบบที่เรียนครบคอร์สแล้วสามารถเปิดโรงเรียนสอนโยคะให้บุคคลทั่วไปได้แบบไม่อาย

2012/03/15

As per my boy's request; Almond choux cream


วันหยุดสุดหรรษาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสลี้ภัยไปต่างจังหวัด โอ......โลกมันช่างสดใสอะไรอย่างงี้ คุณแม่ขาออกอาการตื่นเต้นมากๆ ล่วงหน้าถึงสองวันประหนึ่งเด็กนักเรียนจะได้ไปทัศนศึกษาครั้งแรกไงงั้น อายลูกเหมือนกัน แต่ขอนิดน้า นานๆ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศเลี้ยงลูกซักที จริงๆ ก็ไม่ได้ไปไกลจากบ้านซักเท่าไหร่หรอก แต่แค่ได้ออกก็วิเศษแล้ววินาทีนี้

2012/03/07

My holiday is incomplete without baking; Caramel mousse cream cheese cake


วันหยุดอีกแล้วครับท่าน ไม่สนและไม่แคร์ว่าจะเป็นเพียงแค่วันหยุดทางศาสนา จะทำขนมฉลองซะอย่างใครจะทำไม ไม่อยากจะบอกว่าบังเอิญเอาเป็นว่าตั้งใจก็แล้วกันว่าจะเอาครีมชีสที่ใกล้จะหย่อนลงถังขยะได้เต็มทีมาทำขนมซักอย่างกินในวันหยุดให้เพลิดเพลินซะหน่อย ถ้าเหลือก็จับยัดลงปิ่นโตให้ลูกไปโรงเรียนต่อพรุ่งนี้ แหล่มจริงอะไรจริง

2012/03/03

Chocolate mashmallow tea cake; A dome shape-like sweet treat


จู่ๆ ก็นึกถึงเจ้าขนมที่มีชื่อว่า "Tea cake" ขึ้นมาซะงั้น แต่ "Tea cake" ที่ว่านี้มันเป็นแบบที่ด้านล่างเป็นบิสกิตกรอบๆ ร่วนๆ ที่มีกลิ่นจางๆ ของอบเชย โปะด้วยมาร์ชมาลโลว์นุ่มๆ หยุ่นๆ แล้วเคลือบด้วยช็อคโกแลตอีกที พอจะนึกกันออกมั้ย เคยกินของมาร์คแอนด์สเปนเซอร์นานมากแล้ว นานจนแทบจะจำไม่ได้ว่ารสชาดมันเป็นไง เลยถือเอาโอกาสนี้รื้อฟื้นความทรงจำใหม่ซะหน่อย เฮ้อ!!!!! ยังไม่วายไม่สามารถทำให้มันเหมือนต้นฉบับได้

2012/02/28

Chicken Farm Baker's Project # 42: February Snack Box: Open it and fall in love (with ME), again; Spicy love set



การบ้านเดือนกุมภาพันธ์ที่โฮสท์คือคุณจิ๊บ เจ้าสาวป้ายแดง หวานมากๆ ให้สมาชิกแต่ละคนทำอาหารกล่องที่มีทั้งคาวและหวานไม่ขาดแม้เครื่องดื่มให้สุดสวาทขาดใจหอบไปกินที่ทำงาน เลยถือเอาโอกาสนี้เป็นโอกาสเหมาะในการทำหวานเสริมขาเตียงให้เข็มแข็งยิ่งขึ้นสำหรับคนที่ผ่านการแต่งงานมาเกือบทศวรรษอย่างเรา

2012/02/12

Crêpes a la crème fraîche et des fruits rouges et ganache a chocolat, Your love is hot like red


เหลืออีกแค่หนึ่วันทำการเท่านั้นภารกิจพิชิตใจสุดที่รักก็จะลุล่วงแล้ว เฮ้อ! ขอแอบเหนื่อยได้มั้ยเนี่ย แบบว่าสุขแบบเหนื่อยๆ อ่ะ ใครพอจะเข้าใจบ้างยกมือขึ้น

2012/02/11

My love is sweet and beautiful like a rose; Thai sweet layered cake called "Khanom chan"


ขนมชิ้นต่อไปสำหรับส่งมอบต่อให้หวานใจเป็นขนมไทยที่ชื่อว่า "ขนมชั้น" นอกจากหาทานได้ง่ายแล้วยังทำง่ายอีกด้วย สีก็สวย รสชาดหวานมัน กลิ่นก็ห๊อมหอม ก็มันเป็นกลิ่นกุหลาบนี่นา กำลังหาข้ออ้างในการหยิบเอาน้ำกุหลาบเข้มข้นที่แอบซื้อมาด้วยเงินตัวเองพอดี(อย่างอื่นใช้เงินคุณสามีหมดตามประสาคนรู้จักใช้เงิน อิอิ)กลิ่นงี้หอมมาก หอมขนาดที่ว่าเปิดขวดดมแล้วเดินเป๋ไปเลย หลังจากที่เมื่อวานบอกกับตัวเองว่าจะตั้งใจทำขนมทุกวันจนกว่าจะถึงวันวาเลนไทน์ วันนี้ก็จัดการเพิ่มข้อบีบคั้นแบบโหดๆ ให้กับตัวเองเพิ่มเข้าไปอีกนิดนึงว่าจะทำขนมหวานวาเลนไทน์ให้ไม่ซ้ำสัญชาติกันเลยอีกด้วย แม่เจ้าสงสัยว่าจะเพี้ยนไปแล้ว แต่ดีนะว่าเหลืออีกแค่สองวันเอง เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ สบายๆ ชิลๆ

2012/02/10

Very strawberry daifuku, My whole world with you is pink


วู้ววววว วันแห่งความรักใกล้เข้ามาแล้วทุกที มานับถอยหลังกันด้วยขนมหวาน สีหวาน ที่ทำได้ไม่ยากเผื่อเป็นไอเดียมัดใจคนรักกันดีกว่า สัญญากับตัวเองแล้วว่าจากวันนี้จนถึงวันวาเลนไทน์จะทำขนมเสริฟคุณสามีให้สำลักความหวานทุกวัน ตอบแทนกับความรักความเอาใจใส่ที่มีมอบให้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา (เลี่ยนอ่ะอย่าเพิ่งมองหากระโถนกันก่อนนะค้า) และจะพยายามอัพบล็อคทุกวันให้ได้ด้วยเผื่อว่าจะเป็นไอเดียให้ใครต่อใครทำเพื่อไปมอบให้คนรู้ใจในวันวาเลนไทน์ที่ใกล้เข้ามาแล้วนี้ (ไม่รู้ว่าสำเร็จมั้ยน้อ เอาใจช่วยหน่อยน้า)

2012/01/30

Chocolate-raspberry cheese mousse cake; A perfect combination that last forever like our friendship


วันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่รู้สึกว่าตัวเองยังคงมีเพื่อนในรอบครึ่งทศวรรษ สาเหตุที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเยี่ยงนั้นก็เป็นเพราะเพื่อนๆ ที่คบกันตั้งแต่ตอนเรียนมหา'ลัยปีหนึ่ง ได้อุตสาห์ให้เกียรติหอบสังขารกันมาจัดปาร์ตี้วันเกิดย้อนหลังให้สมาชิกคนหนึ่งในก๊วนกันถึงที่นครปฐมเลยทีเดียว แถมบังคับแกมขมขู่ปนขอร้องนิดๆ (มั้ย) ว่า อยากได้เค้กช็อคโกแลต รับปากแบบส่งๆ ไป (แต่ดีใจจนเนื้อเต้นติ๊กๆ)

2012/01/27

Chicken Farm Baker's Project # 41 : Makeover Bread Pudding; Coconut bread pudding with cinnamon brown bread ice cream


ฮิ้วววว อัพบล็อคเป็นครั้งแรกเปิดศักราชของปีเอาเกือบสิ้นเดือนด้วยการบ้านฟาร์มซะงั้น อะไรจะขยันขนาดนี้ โจทย์การบ้านก็ง๊ายง่าย (โฮสต์เค้าว่างั้นนะ) โดยโฮสต์ของเดือนนี้ก็คือ น้องบอล bon-nobi เค้าให้ทำเบรดพุดดิ้งกินกะไอติมอร่อยๆ ใช้เวลาจินตนาการตั้งเกือบครึ่งเดือนแน่ะถึงตีโจทย์แตก ก็ไม่สันทัดการทำไอตงไอติมกะเค้าเลย กว่าจะคิดรสได้ก็ตระเวณลอกบล็อคคนอื่นเต็มไปหมด มั่วไปมั่วมาเริ่ดดีแฮะ