2011/05/24

Upside down pineapple cake, simple but unique


เย็นวานนี้คุณสามีหอบเอาเข่งผลไม้เข้าบ้านมา ศรีภรรยารีบปรี่เข้าไปสังเกตุการณ์ทันที แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ในเข่งเต็มไปด้วยสัปปะรดภูแล ถามไถ่คุณสามีว่ามีผู้ใดเค้ามีจิตพิศวาสยกเข่งมาให้เช่นนี้ คำตอบที่ได้ก็เรียบๆไม่หวือหวา ก็คุณลูกค้าที่เคารพนั่นแหละ จัดการแบ่งให้ลูกน้องครบทุกคนแล้วก็ยังเหลืออีกตั้งเป็นสิบลูก นั่งพินิจพิเคราะห์สัปปะรดที่เหลืออยู่ด้วยความกลัดกลุ้มว่าจะกำจัดยังไงให้หมดไปอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะเน่าเสียของ ครั้นจะบริโภคสดๆ ที่บ้านรึก็ไม่ค่อยมีใครโปรดซักเท่าไหร่ นึกขึ้นมาได้ก็เอามันไปทำเค้กดีกว่า เค้กที่ว่านี้มันเป็นเค้กกายกรรมเชียวนะ เพราะเวลาจะเสริฟต้องกลับบนลงล่างไง เก๋ซะ วัตถุดิบก็พร้อม คนทำไม่ต้องบอกยิ่งพร้อมกว่า ไม่สมควรที่จะรอช้า เอ้า!ลงครัวตอนดึกอีกรอบ

ซอสคาราเมล
น้ำตาลทรายสีรำ     3/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย        3/4 ถ้วย
น้ำปล่า              2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด             60 กรัม
สัปปะรดฝานแว่น     6 ชิ้น (หนาประมาณ 1 เซนติเมตร)
วิธีทำ
นำน้ำ และน้ำตาลทั้งสองอย่างใส่ลงไปในหม้อยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ไม่ต้องคน ปล่อยให้น้ำตาลละลายให้หมดยกลงแล้วเติมเนยสดลงไป คนให้เข้ากัน เทใส่ในพิมพ์ วางสัปปะรดลงไปบนซอสคาราเมล พักไว้แล้วเตรียมทำส่วนของเค้กเนย


เค้กเนย
แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม
น้ำตาลทราย     150 กรัม
เนยสด         115 กรัม
ไข่ไก่            2 ฟอง
วิปปิ้งครีม       1/2 ถ้วย
ผงฟู             1 ช้อนชา
วานิลลา          1 ช้อนชา
เกลือ          1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกันพักไว้ เปิดเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียสรอไว้
ตีไข่ให้พอแตกเข้ากัน ใส่วานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน นำเนยสดใส่ในชามสเตนเลส ใช้เครื่องตีมือถือตีเนยให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลลงไปตีต่อให้ฟูและมีสีอ่อนลง ทะยอยเทไข่ลงไปทีละนิดตีให้เข้ากัน


แบ่งส่วนของแป้งออกเป็นสามส่วน นมสองส่วน ใส่แป้งส่วนแรกลงไปในส่วนผสมของไข่กับเนย ตะล่อมให้เข้ากัน เทนมลงไปหนึ่งส่วนตะล่อมให้เข้ากัน ทำสลับกันไปจนจบที่ส่วนของแป้ง ตะล่อมให้เข้ากัน


เทแบทเทอร์ของเค้กที่ได้ลงในพิมพ์ที่มีซอสคาราเมลและสัปปะรดอยู่ กะให้ความสูงของแบทเทอร์ของเค้กที่เทลงไปประมาณ 3/4 ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที นำออกมาพักไว้ประมาณ  2 นาที ใช้ปลายมีดแซะเค้กให้หลุดจากขอบแล้วรีบคว่ำพิมพ์ลงบนจานก่อนที่คาราเมลด้านล่างจะแข็งตัวทำให้เค้กไม่ยอมหลุดออกจากพิมพ์ เป็นอันเสร็จ อร่อยได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องพิถีพิถัน




อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

No comments:

Post a Comment