2011/06/29

Macarons revisited; Macarons with bacon cheese cream salad


กลับมาสู่นิวาสสถานอันแสนสุขเสียที หลังจากจิตตกใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลตั้งสามวันสองคืนเฝ้าดูอาการหลังผ่าตัดของแสบพี่ เมื่อเจี๋ยนเจ้าต่อมทอนซิลออกไปจากจุดเกิดเหตุช่างเป็นอะไรที่มหัศจรรย์อย่างมาก จากที่เคยนอนกรนเหมือนโรงสีไฟกลับกลายเป็นนอนเงียบเหมือนเป่าสากซะงั้น เลยต้องลำบากคุณแม่ดีเด่นอย่างเราต้องคอยเอานิ้วจ่อตรงปลายจมูกเพื่อเช็คดูว่าลูกยังหายใจรึเปล่า ตกลงเลยไม่รู้ว่าดีรึเปล่ากับคุณภาพชีวิตของคุณแม่ เพราะว่ายังคงต้องตื่นบ่อยๆ อยู่เหมือนอย่างเคย ต่างกันตรงที่จากเดิมตื่นเพราะคอยเปลี่ยนท่านอนเป็นตื่นเพราะกลัวลูกไม่หายใจ เฮ้อ เมื่อไหร่จะปรับตัวได้เนี่ย เศร้าจัง
ตอนอยู่โรงพยาบาลดันลืมเอาอุปกรณ์เพิ่มพลังให้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดติดไปด้วย ทำให้พลาดโอกาสอัพเดตข้อมูลที่คิดว่าสำคัญไปมากโข ดังนั้นวินาทีที่เท้าเหยียบเข้ามาในตัวบ้านเลยรีบแจ้นไปเชื่อมต่ออย่างเร่งด่วน ไม่ผิดหวังจริงๆ เปิดปุ๊บก็ได้พบกับคำชี้แนะที่รอคอยจากกูรูมาคาฮอง หลังจากที่เปิดประเด็นเอาไว้ก่อนพาแสบพี่เข้าโรงพยาบาล กูรูท่านแนะว่าให้เปิดไฟทั้งบนและล่าง 2 นาทีแรกตอนอบมาคาฮอง หลังจากนั้นก็ให้เปลี่ยนเป็นไฟล่างอย่างเดียว หน้ามันจะได้ไม่เหี่ยวเหมือนยายแก่อายุ 70 ปี ที่ไม่ผ่านการฉีดโบทอกซ์ ไม่รอช้ารีบไปบำบัดอาการจิตตกที่ติดมาจากโรงพยาบาลด้วยการจัดนัดล้างตาอบมาคาฮองอีกรอบ แต่รอบนี้ขอเสริฟเป็นแบบกึ่งคาวกึ่งหวาน ด้วยการอัดฉีดเบคอนกรอบ และชีสขูดฝอยลงไปในน้ำสลัดเลมอน พยายามหลอกตัวเองและคนร่วมรับประทานว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ (มั้ง)

มาคาฮอง (เปลือก)
ไข่ขาว            50 กรัม (ทิ้งไว้นอกตู้เย็น 2 วัน)
น้ำตาลทราย        15 กรัม
อัลมอนด์สไลด์หรือป่น  70 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง        100 กรัม
สีผสมอาหาร        1/4 ช้อนชา
(พยายามใช้สีผงจะได้ไม่ไปเพิ่มความชื้นให้มาคาฮอง วันนี้ใช้สีเหลือง)
วิธีทำ
จัดการนำกระดาษซิลิโคนรองอบปูบนถาดอบเอาไว้ ติดหัวบีบแบบกลมไว้ในถุงบีบรอไว้
นำอัลมอนด์ปั่นรวมกับน้ำตาลไอซิ่งจนละเอียด ร่อน 2 ครั้ง ผิวของมาคาฮองจะได้เนียน
นำไข่ขาวใส่ในชามแห้ง ไร้คราบไขมัน ใช้เครื่องตีมือถือตีให้เป็นฟองละเอียดเล็กๆ ทะยอยใส่น้ำตาลลงไป ตีให้ตั้งยอดอ่อน เติมสีผงลงไป ตีต่อให้สีพอสม่ำเสมอ อย่าตีให้ไข่ขาวตั้งยอดเลยยอดกลาง เดี๋ยวมาคาฮองจะเหนียวหนึบ


จากนั้นแบ่งส่วนของอัลมอนด์เป็นสามส่วน ทะยอยลงไปตะล่อมให้เข้ากัน เสร็จแล็วก็ตักใส่ถุงบีบที่เตรียมไว้ บีบหยอดลงบนถาด (ส่วนใหญ่มืออาชีพเค้าจะวาดรูปวงกลมตามขนาดมาคาฮองที่ต้องการเอาไว้ จะได้ง่ายต่อการหยอด แต่เราขี้เกียจจัด บีบไปเลยตามมีตามเกิด เล็กบ้างใหญ่บ้าง กะน้ำหนักมือเอา)บีบหยอดให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว เพราะเดี๋ยวมันจะแผ่ออกอีกนิด จับถาดกระแทกแรงๆ ซักสองสามครั้ง เพื่อไล่ฟองอากาศในมาคาฮองออก อบออกมาแล้วจะได้ไม่ปูดๆ กลวงๆ หลังจากนี้ก็พักผิวหน้าของมาคาฮองให้แห้ง แบบที่เวลาเอานิ้วไปแตะแล้วไม่ติดนิ้วขึ้นมา (อันนี้สำคัญมาก เพราะมาคาฮองจะได้มีกะโปรงที่สวยงาม หน้าไม่แตกยับเยิน) เวลาที่พักผิวก็ประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วแต่สภาวะความชื้นในอากาศ แล้วค่อยเปิดเตาอบที่ 150 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่าง (ตามที่กูรูแนะนำ) รอให้ความร้อนทั่วถึงประมาณ 10 นาที แล้วค่อยนำถาดมาคาฮองเข้าเตาอบ วางถาดไว้ชั้นกลาง อบแบไฟบนล่างประมาณ 2 นาที จากนั้นเปลี่ยนเป็นไฟล่างอย่างเดียวอีก 8 นาที(อันนี้แล้วแต่เตาอีกเช่นเคย แนะนำให้นั่งเฝ้าอีกแล้ว ถ้าทำมากกว่าหนึ่งถาดก็ทะยอยอบเอา เคยอบพร้อมกันแล้วเจ๊ง)

เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็นค่อยแกะออกจากกระดาษรองอบ เลือกเอาไซส์ใกล้เคียงมาประกบกันจะได้แลดูมืออาชีพ สุดท้ายจัดการใส่ใส้

ใส้ครีมสลัดเลมอน เบคอนและชีส
น้ำสลัดน้ำใสเลมอน     10 ช้อนโต๊ะ (อันนี้ทำไว้ติดบ้านตลอดไว้ค่อยบอกสูตรทีหลัง)
ไข่แดง                 1 ฟอง
นม                    2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด            1 ช้อนโต๊ะ
เบคอนทอดกรอบป่น     3 ช้อนโต๊ะ
ชีสขูดฝอย              3 ช้อนโต๊ะ (เลือกชนิดที่เค็มน้อย วันนี้ใช้ colby swiss cheddar)
วิธีทำ
นำไข่แดง นม และแป้งข้าวโพดใส่ลงในชามสเตนเลส ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เติมน้ำสลัดลงไปคนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นนำขึ้นต้องไฟอ่อน คนตลอดเวลาจนเป็นครีมข้น ยกลงจากเตา พักให้เย็น เติมเบคอนกรอบ และชีสลงไป คนให้เข้ากัน จัดการนำไปใส่เป็นใส้มาคาฮอง



ส่วนตกแต่ง
ฟิลเลซ์ไอซ์เบิร์ก หรือผักสลัดชนิดอื่นตามชอบ
ชีสขูดเป็นเส้น
วิธีทำ
จัดจานให้สวยงามด้วยฟิลเลซ์ไอซ์เบิร์ก หรือผักสลัดชนิดอื่นตามชอบ วางมาคาฮองลงไป โรยด้วยชีสขูดเส้น หยิบเข้าปากแบบพ่วงผักเข้าไปด้วยนะค้าถึงจะเรียกว่าเพื่อสุขภาพ


 อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

No comments:

Post a Comment