2011/05/10

For my 7th wedding anniversary ; Mulberry swirl cheesecake


วี๊ดว้าย วี๊ดวิ้ว พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก มิน่าเชื่อเวลามันติดปีกชัดๆ ไม่ทันไรก็เป็นคนไม่โสดมาได้ตั้ง 7 ปีเข้าไปละ วันนี้เป็นวันดี๊ดี วันที่ 9 เดือน 5 ของเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เป็นวันที่เราจะไม่ได้นอนกางแข้งกางขา วาดมือไปมาได้สบายบนเตียงคนเดียว เป็นวันที่หลังจากนี้จะไม่เปิดแอร์นอนไม่ได้ (มันร้อนเพราะมีคนนอนข้างๆ ฮิ้ววววว) เป็นวันที่ต้องต้องอพยพตัวเองมาไกลจากคุ้มทางเหนือ เพื่อมาอยู่บนเหล่าเต้งในภาคกลาง เป็นวันที่จะต้องเริ่มปรับตัวจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ (ให้ได้ เป็นไฟต์บังคับอ่ะนะ) และนับหลังจากวันนี้จะเป็นวันที่ไม่ต้องชักหน้าแล้วยังไม่ถึงแม้กระทั่งกลางหลังอีกต่อไป (ฮ่าๆๆๆๆ อันนี้ชอบมากมาย เพราะว่าเรามีคนหาเลี้ยงแล้วนั่นเอง ยิปปี้ยัปปะยัปปะดู้) และที่มากไปกว่าทั้งหมดมันก็คือเป็นวันที่เราจะได้อยู่กับคนที่เรารักและรักเรา ร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเล็กๆขึ้นมาด้วยกัน (ณ ตอนนี้นั้น อุ่นมากจนร้อนเลยแหละ) ไม่ว่าจะทุกข์จะสุขก็จะมีคนเคียงข้าง (ทะเลาะ) 
คุณสามีผู้น่ารัก (แบบพอเพียง) ก็ไม่ทำให้ศรีภรรยาเยี่ยงเราผิดหวัง รำลึกถึงวันครบรอบแต่งงานอันแสนจะโรแมนติกด้วยการนำเอาดอกไม้กลับมาจากงานแต่งงานของเพื่อนเจ็ดดอก มาวางไว้บนเตียงเซอร์ไพรส์คุณศรีภรรยา เฮ้อ!!!! สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานค้า (ปล. วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตอนทำเลย เพราะต้องแอบ แอบ และก็แอบ ขนาดอัพบล็อคยังต้องแอบเลยอ่ะ ก็คนมันเขิลลลลลนี่นา ขอโทษทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยค่า)


ไวท์ช็อคแคร็กเกอร์ครัสต์
แคร็กเกอร์เค็ม    80 กรัม
ไวท์ช็อค        20 กรัม
เนยสด          30 กรัม
วิธีทำ
นำทุกอย่างใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดเข้ากัน นำมากรุที่พิมพ์ที่ถอดก้นได้เพื่อเป็นฐานของชีสเค้ก (วันนี้ใช้พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 12 ซม.) นำเข้าเตาอบที่ตั้งอุณหภูมิไว้ 150 องศาเซลเซียส (ไฟล่างอย่างเดียว) ประมาณ 10 นาที นำออกมาพักไว้ ระหว่างนี้ก็ไปทำส่วนของชีสเค้กกันต่อ

ชีสเค้ก
ครีมชีส           250 กรัม
ไข่แดง             2 ฟอง
ไข่ขาว             3 ฟอง
วิปปิ้งครีม          30 มล.
เนยสด             20 กรัม
น้ำตาลทราย        70 กรัม
แป้งอเนกประสงค์    1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว           1 ช้อนโต๊ะ
วานิลลา            1 ช้อนชา
เกลือ               1/8 ช้อนชา
มัลเบอร์รี่ฟิลลิ่ง       4 ช้อนโต๊ะ (ลูกหม่อนกวน)
วิธีทำ
นำน้ำ (มากหน่อยเผื่อเอาไว้รองถาดตอนอบชีสเค้ก) ใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ลดไฟลงให้น้ำเดือดแค่รุมๆ นำครีมชีส เนย และวิปปิ้งครีมใส่ชามทนความร้อน วางชามไว้บนหม้อน้ำเดือด ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ยกลงพักไว้ให้อุ่น ใส่วานิลลาลงไปในไข่แดงคนให้เข้ากัน เทลงไปในชามที่พักไว้ คนให้เข้ากัน ใส่แป้งคนให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
เตรียมชามสะอาดอีกหนึ่งใบ ใส่ไข่ขาวลงไปกับน้ำมะนาว ตีให้เป็นฟองหยาบๆ ทะยอยใส่น้ำตาลลงไปทีละนิด ตีจนขึ้นฟูตั้งยอดกลาง แบ่งไข่ขาวหนึ่งในสามไปตะล่อมกับส่วนของชีสที่พักไว้ให้เข้ากัน จากนั้นนำไข่ขาวที่เหลือทั้งหมดลงไปตะล่อมให้เข้ากันดี พยายามทำอย่างเบามือโฟมไข่ขาวจะได้ไม่ยุบมากนัก ชีสเค้กที่ได้จะได้มีเนื้อเบาขึ้น
ใช้อลูมิเนียมฟอยล์หุ้มข้างพิมพ์ที่พักเอาไว้เพื่อกันน้ำซึมเข้าไป นำส่วนของชีสเทใส่พิมพ์ หยอดมัลเบอร์รี่ฟิลลิ่งเป็นจุดๆ ครั้งละครึ่งช้อนโต๊ะ กระจายบนส่วนของชีส ใช้ปลายมีดลากให้เป็นลวดลายสวยงาม
ยกพิมพ์ลงไปวางในถาด เทน้ำร้อนที่อยู่ในหม้อลงไปในถาด ให้ความสูงของน้ำประมาณครึ่งพิมพ์ นำเข้าเตาอบโดยวางถาดไว้บนชั้นบนสุด ให้อยู่ไกลส่วนที่ให้ความร้อนมากที่สุด (จะช่วยให้ชีสเค้กหน้าไม่แตก) อบประมาณ 50 นาที ถึงหนึ่งชั่วโมง (อันนี้แล้วแต่เตานะ ต้องสังเกตุเอาเองค้า) เสร็จแล้วยังไม่ต้องนำออกมาจากเตาอบ ให้พักเอาไว้ในนั้นจนเย็นโดยระหว่างที่พักไว้ให้แง้มฝาเตาอบไว้ด้วย พอชีสเค้กเย็นก็นำมาพักไว้ในตู้เย็นต่ออีกคืน (นานเน้อ แต่คุ้มค่า สมราคาเหนื่อย) เช้ามาก็จัดการละเลงตามชอบ คุณสามีสุดที่เลิฟเค้าชอบแบบเสริฟกับครีมด้วย จัดให้เค้าไปเพราะวันนี้มีแค่เราสองเท่านั้นที่สำคัญ (แหวะๆ แหยะๆ เหมือนชีสเค้กเลยเนอะ อย่าเพิ่งอ้วกกันก่อนน้า)

สำหรับตกแต่ง
วิปปิ้งครีม          200 มล.
น้ำตาลไอซิ่ง         20 กรัม
มัลเบอร์รี่ฟิลลิ่ง     ตามชอบ
วิธีทำ
ใช้มีดกรีดขอบข้างให้รอบก่อนนำชีสเค้กออกจากพิมพ์ ใช้มีดจุ่มน้ำร้อนก่อนตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ อย่าลืมทำความสะอาดมีดก่อนจุ่มน้ำร้อนและตัดใหม่ทุกครั้ง เดี๋ยวขอบไม่เนียน จากนั้นก็ตกแต่งจานด้วยมัลเบอร์รี่ฟิลลิ่ง วางชีสเค้กลงไป เพิ่มครีมเพื่อความอร่อยมากขึ้น แล้วก็ยกไปประเคนให้บุคคลที่เรารักทันที 

    
                                                 


อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

2 comments:

  1. สุโคอิอีกเช่นเคยนะเอื้อม อยากกินอ่ะ แต่เป็นขนมของสามีและภรรยา เราไม่เกี่ยวนี่หว่า อิอิ
    ซ้อมนานมั้ยกว่าจะทำสวย น่ากินเช่นนี้อ่ะเพื่อน
    ปล.โพสยากกโพดด

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมามายเลยจ้าบี๋ สำหรับเมนท์ดีๆทำให้มีกำลังใจมากมาย

    ReplyDelete