เป็นเพราะเจ้าเค้กชิ้นนี้ทำให้หยุดเกาะตู้ขนมมองอยู่นานสองนานพินิจพิเคราะห์จนคุณสามีต้องสะกิดว่าอายเค้า จะกินก็สั่งซิ เกาะตู้จ้องเป็นเด็ก 2 ขวบอยู่ได้ เช๊อะ!! ใครจะอายก็อายไป ชิ!! เราไม่สนซะอย่าง เพราะถึงพนักงานหน้าร้านจะนินทาแต่ข้าฟังไม่ออก ฮิ้ววววว
จากการสังเกตุการณ์แบบสุ่มๆ เพราะไม่ได้รับเข้าปากจริง พอจะประมวลผลได้ว่าต้นฉบับเค้าด้านล่างสุดจะเป็นพัฟพาสตรี้กรอบๆ ตามมาด้วยชั้นของคัสตาร์ดวานิลลาบางๆ ถัดมาเป็นสปันจ์เค้กนิ่มๆ ตามมาด้วยชั้นของเยลลี่สีแดงแปร๊ด แล้วก็คัสตาร์ดอีกที ผนึกด้วยสปันจ์เค้กนิ่มๆ แล้วก็น่าจะเป็นเคริ์ดเลมอน ปิดท้ายด้วยชั้นของพิสทาชิโอครีมสีเขียวสด แต่ด้วยความที่ไม่อยากรีดแป้งพัฟพาสตรี้เพราะว่าไม่สันทัดอย่างแรง ก็เลยต้องงัดกลยุทธ์สลับสับเปลี่ยนเอาด้วยการเปลี่ยนชั้นฐานเป็นสปันจ์เค้กแทน ราดด้วยซอสวานิลลาที่เหลือจากการทำการบ้านฟาร์มไก่ โรยทับด้วยแครกเกอร์ครัมบ์พิสทาชิโอให้มันมีรสสัมผัสกรอบๆ แบบพัฟพาสตรี้ ติดมาด้วยชั้นของเยลลี่ราสเบอร์รี่ ทับด้วยสปันจ์เค้กอีกที แปลงจากเคิร์ดเลมอนเป็นเคิร์ดส้มแมนดารินเพราะเลมอนมันไฮโซเกินไม่มีติดบ้าน ปิดท้ายด้วยครีมพิสทาชิโอสีสดใส ถูๆไถๆ ไปให้หน้าตามันคล้ายๆ ก็เพียงพอแล้ว มามะมามั่วด้วยกันเร็ว
ปอลอปอลิง ไม่มีรูปตอนทำเลยเพราะว่ามั่วของแท้ แค่สำเร็จก็เป็นวาสนาแล้ว ขอโทษด้วยนะค้า
เยลลี่ราสเบอร์รี่
ราสเบอร์รี่แช่แข็ง 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
เจลาติน 1 ช้อนชา
น้ำสะอาดเย็น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำราสเบอร์รี่และน้ำตาลทรายใส่ลงในหม้อนำขึ้นตั้งบนเตา เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมเดือด ยกลงจากเตา ระหว่างนี้นำเจลตินใส่ลงในน้ำสะอาดเย็นรอให้เจลาตินดูดน้ำจนพอง นำเจลาตินที่ได้ใส่ลงในซอสราสเบอร์รี่ที่ยังร้อนอยู่ คนให้เจลาตินละลายเข้ากับซอสราสเบอร์รี่ หากต้องการให้ชั้นของเยลลี่เนียนสวย พอซอสอุ่นให้นำใส่โถปั่นให้ละเอียดแล้วกรองเอาเม็ดออกก่อนนำไปใช้
เคิร์ดส้มแมนดาริน
น้ำส้มแมนดารินคั้นสด 150 มล.
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือหนึ่งหยิบมือ
วิธีทำ
นำน้ำใส่หม้อ ความสูงของน้ำประมาณหนึ่งนิ้ว ขึ้นตั้งบนเตาแก๊ซให้เดือดรุมๆ ลดไฟลงเหลือไฟอ่อน
นำไข่ไก่ น้ำตาลทราย และเกลือ ใส่ลงในชามสเตนเลส ใช้ตะกร้อมือตีจนไข่ขึ้นฟูสีอ่อนลง เติมแป้งข้าวโพดลงไปคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวแล้วค่อยใส่น้ำส้ม คนให้เข้ากัน
นำชามขึ้นวางบนหม้อที่มีน้ำเดือดรุมๆ ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อยๆ อย่าหยุดจนส่วนผสมข้นหนืด ยกลงจากเตาคนเรื่อยๆ จนส่วนผสมที่ได้อุ่นลง ใช้พลาสติกแรปปิดหน้าเพื่อไม่ให้หน้าแห้ง พักไว้
ครีมพิสทาชิโอ
พิสทาชิโออบแกะเปลือกแล้ว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลไอซิ่ง 1/4 ถ้วยตวง
เนยจืดนิ่ม 1/4 ถ้วยตวง
สีผสมอาหารสีเขียวนิดหน่อย
วิธีทำ
นำพิสทาชิโอ และน้ำตาลไอซิ่ง ใส่ลงในโถปั่น ปั่นให้ละเอียดเป็นครีมเหนียว ตักออกมาใส่ชามคนผสมกับเนยที่นิ่มแล้วจนเข้ากันดี ส่วนผสมที่ได้จะเหลวๆ เติมสีผสมอาหารลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองผ่านกระชอนตาถี่ให้ส่วนผสมเนียนไม่มีติดเป็นก้อนๆ พักไว้
แทงจี้พิสทาชิโอเลเยอร์เค้ก
สปันจ์เค้กวานิลลา 1 สูตร วิธีทำและสูตรดูได้ ที่นี่
ซอสวานิลลา 1/2 สูตร วิธีทำและสูตรดูได้ ที่นี่
แครกเกอร์ครัมบ์พิสทาชิโอ 1 สูตร วิธีทำและสูตรดูได้ ที่นี่ โดยเปลี่ยนแทนที่อัลมอนด์ด้วยพิสทาชิโอ
เยลลี่ราสเบอร์รี่
เคิร์ดส้มแมนดาริน
ครีมพิสทาชิโอ
วิธีทำ
ตัดสปันจ์เค้กเป็นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีกับพิมพ์สี่เหลี่ยมถอดก้นได้ขนาด 1 ปอนด์ 2 ชิ้น นำสปันจ์เค้กที่ตัดได้ขนาดแล้วหนึ่งชิ้นไปกรุที่ฐานพิมพ์ ทาทับด้วยซอสวานิลลา โรยด้วยแครกเกอร์ครัมบ์ ใช้หลังช้อนกดเบาๆ ให้แน่นขึ้น เทส่วนของเยลลี่ราสเบอร์รี่ลงไป เกลี่ยให้เรียบ วางทับด้วยสปนจ์เค้กอีกชิ้น เทเคิร์ดส้มลงไป เกลี่ยให้เรียบ ตามด้วยส่วนของครีมพิสทาชิโอ เกลี่ยหน้าให้เรียบ นำพิมพ์ใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เพื่อให้เค้กเซตตัวและตัดแบ่งง่าย
ส่วนตกแต่ง
ราสเบอร์รี่สด
พิสทาชิโอสับหยาบ
น้ำตาลไอซิ่ง
วิธีทำ
ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้นๆ แต่งหน้าด้วยราสเบอร์รี่สด โรยด้วยพิสทาชิโอสับหยาบ และน้ำตาลไอซิ่งเพื่อความสวยงาม หยิบวางบนจาน ประเคนให้กับผู้บริโภคประจำโดยทันที
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า
No comments:
Post a Comment