2013/06/08

Avoid the long queue by making your own "Salted custard-lava pau"

 
กลางเดือนที่แล้วนั่งเลียหน้าวอลล์เฟซบุ๊กของเพื่อนคนนึงจนเยิ้มแฉะ โทษฐานที่บังอาจโพสต์รูปซาลาเปาใส้ไหลยั่วน้ำลายดีนัก จำได้ว่าเมื่อปลายปีที่แล้วได้มีโอกาสไปลิ้มลองน้องเปาขาว อวบ เยิ้มไหลย้อยนี้ที่สิงคโปร์ตามแรงยั่วยุของเจ้าของบล็อคชาวสิงคโปร์คนนี้เลย Ladyironchef จัดใหญ่ให้หนักซัดไปคนเดียวทั้งเข่ง กลับมาจากเที่ยวครานั้นเล่นเอากลับมาฝันแบบหิวๆ ต่อไปอีกครึ่งค่อนเดือน จนพายุความอยากกินสงบลงทำให้ความระลึกถึงพลอยจางหายไปด้วย ดังนั้นเมื่อหน้าวอลล์ของเพื่อนเล่นปรากฏรูปโชว์หราท่าแหวกใส้จนเยิ้มและย้อยกระแทกเข้าเบ้าตาซ้าย จึงทำให้ต่อมความงุ่นง่านทะยานอยากพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดอีกครั้ง รีบลนลานกระดิกนิ้วเข้าไปคอมเมนท์ในทันทีว่าไอ้แบบนี้อ่ะหากินได้ที่ไหน เพื่อนก็ไม่ใจร้ายรีบให้แหล่งที่มาเร็วทันใจ แต่กระซิบตบท้ายว่า รอคิวนานนะกว่าจะได้กินก็สิ้นปีพอดี ไม่เชื๊อ ไม่เชื่อ อะไรจะขนาดนั้น คว้าโทรศัพท์คู่ใจต่อสายตรงไปห้องอาหาร เลยได้คำตอบจากพนักงานบริการว่า แค่คิวแรกที่ว่างคือต้นเดือนตุลาเองค่ะ เอิ่มมมมม เร็วมากเลยค่ะคุณน้อง พี่รอไม่ไหวแล้ววววว
 
 
เมื่อกิเลสมันเผาใจทำให้ไม่สงบ ทำให้ต้องเสาะแสวงหาแหล่งใหม่ ให้มันรู้ไปในเมืองไทยมีให้กินอยู่ที่เดียว และแล้วก็เหมือนกับสวรรค์เป็นใจ แต่นรกก็ยังเปิดประตูอ้าค้างรออยู่ มันยังมีที่ให้กินที่อื่นอีกจริงๆ ด้วย แต่ว่าที่นั่นมันอยู่ถึงแถวศรีนครินทร์ครับท่าน เรื่องคิวยังไม่รู้แต่ที่รู้คือ บ้านอยู่นครปฐมหากอยากจะไปกินคงต้องเปิดโรงแรมแถวบางนาไว้รองรับแน่ๆ เพราะไกลเกิ๊น เป็นอันว่าแห้วรับประทานอีกครั้ง
เจ็บใจและก็ถอดใจละกับการที่จะไปรอต่อคิว แต่พลังความอยากมันยังไม่หมด เวิ่นเว้องุงิอยู่ครึ่งคืน ตัดสินใจทำกินเองก็ได้ไม่ง้อหรอก ชิ! เข้าไปควานหาสูตรเจ๋งๆ ในโลกออนไลน์ มีคนทำไว้อยู่หลายสูตร มีทั้งไทยและเทศ เลยเลือกหยิบมา 2 สูตร คือของคุณเช้า Chibiasa และของเจ้านี้ Foodmama 
 
 
ลองทำตามสูตรของคุณเช้าก่อน ปรากฏว่าพอบรรจุใส้ซาลาเปาที่ฟรีซลงไปในแป้งซาลาเปาที่พักจนขึ้นแล้วรอบนึง แล้วนำไปพักต่ออีกครึ่งชั่วโมงแล้วแป้งมันไม่ยอมขึ้น พอนำไปนึ่งแล้วส่วนของแป้งมันก็แข็งแล้วก็ด้าน เลยไม่รู้ว่าไปพลาดที่ตรงไหน ตัดสินใจเขียนไปสอบถามเจ้าของสูตรดู เธอก็ใจดีและน่ารัก ให้คำปรึกษามาว่าส่วนของใส้มันเย็นจัดไปทำให้ยีสต์ไม่ทำงาน ตั้งแต่ได้รับคำปรึกษามายังไม่มีโอกาสกลับไปทำสูตรของเธอซ้ำ บังเอิญปิ๊งกับความคิดมั่วๆ ส่วนตัวซะก่อนว่าถ้าจะทำใส้ที่ไม่ต้องแช่เย็นได้ แต่อยู่ตัวเป็นก้อนพอจะวางบนแป้งซาลาเปาได้ แต่เมื่อนำไปนึ่งแล้วมันก็ละลายเยิ้มก็คงดี ไม่อยากให้เป็นแค่การคาดการณ์ว่าจะทำได้ เลยจัดการลองทำซะให้เห็นผลแจ้ง ผลที่ได้ก็เป็นฉะนี้แล
สำหรับแป้งซาลาเปานั้นคราวนี้ขออนุญาตยืมจากคุณอิน อ้อมกอดแห่งความเหงาค่ะ
 
 
 
แป้งซาลาเปา
สูตรและวิธีทำ ตามนี้เลยค่ะ 1 สูตร
 
 
 
ใส้คัสตาร์ดไข่เค็ม
ไข่แดงของไข่เค็มนึ่งสุก               10 ฟอง
ไข่แดงดิบของไข่ไก่                       2 ฟอง
น้ำตาลทราย                                 80 กรัม
หัวนมผง                                      100 กรัม
นมข้นหวาน                                   50 กรัม
นมข้นจืด                                       50 กรัม
เนยจืดนิ่มแต่ยังไม่ละลาย            225 กรัม
 
วิธีทำ
เริ่มจากยีไข่แดงไข่เค็มให้ละเอียด พักไว้ จากนั้นนำเนยจืดนิ่ม และน้ำตาลทรายใส่ลงในชามผสม ใช้เครื่องตีแบบมือถือตีให้พอเข้ากัน ตามด้วยเติมไข่แดงไข่ไก่ดิบทีละฟอง ตีให้เข้ากัน ตามด้วย ห้วนมผง นมข้นหวาน นมข้นจืด และไข่แดงไข่เค็มที่พักไว้ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ นำใส้ที่ได้แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดารอแป้งซาลาเปาที่พักไว้ให้ขึ้นเต็มที่ก่อน
 
 
 
 
ซาลาเปาใส้ครีมไข่เค็มลาวา
แป้งซาลาเปาที่พักจนขึ้นแล้วหนึ่งรอบ  1 สูตร
ใส้คัสตาร์ดไข่เค็ม
 
วิธีทำ
นำแป้งซาลาเปาที่พักจนขึ้นแล้วรอบนึง มานวดไล่อากาศออก คลึงแป้งออกเป็นท่อนทรงกระบอก ตัดแบ่งแป้งออกเป็นก้อนเล็กๆ โดยแต่ละก้อนให้มีน้ำหนักประมาณ 40 กรัม คลึงเป็นก้อนกลมๆ เรียงรอไว้ จะได้แป้งก้อนเล็ก ประมาณ 23 ก้อน
จากนั้นใช้ไม้นวดขนมปังรีดก้อนแป้งก้อนเล็กที่พักไว้ให้แผ่ออกเป็นแผ่นแบนๆ โดยพยายามให้ส่วนขอบบางกว่าส่วนกลาง ซาลาเปาที่ได้จะได้มีแป้งที่ตูดไม่หนาเกินไป ปกติพอได้แผ่นแป้งออกมานักซาลาเปามืออาชีพจะไม่อาศัยอุปกรณ์ช่วยใดๆ นึกจากสมองและสองมือเปล่า เค้าจะตักใส้วางแล้วใช้ฝ่ามือและนิ้วมือในการห่อ แต่เนื่องด้วยความสามารถของมือใหม่นั้นมีจำกัด จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยนั่นก็คือถ้วยน้ำชาไหว้เจ้า เอาไว้สำหรับกรุแผ่นแป้งลงไปแล้วค่อยบรรจุใส้ จากนั้นจึงทำการจับจีบปิด แล้วคว่ำก้อนซาลาเปาที่บรรจุใส้พร้อมกับจับจีบปิดตูดแล้วลงบนพิมพ์คัพเค้กกระดาษ
 

วางพักซาลาเปาพร้อมพิมพ์กระดาษลงไปในถาดหลุมสำหรับอบคัพเค้กหรือมัฟฟิน (ใครไม่มีถาดหลุมก็วางไว้ในพิมพ์ถ้วยอลูมิเนียมสำรับอบคัพเค้กหรือมัฟฟินก็ได้ ไม่ผิดแต่อย่างใดค่า) นำไปพักไว้ในที่มืดประมาณ 30 นาที จนแป้งซาลาเปาขึ้นอีกรอบ จากนั้นจึงนำขึ้นนึ่งในรังถึงที่น้ำเดือดแล้ว (ผสมน้ำส้มสายชูประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำที่จะใช้นึ่งด้วยเพื่อหน้าซาลาเปาจะได้เงาใสปิ๊ง)  นึ่งทั้งถาดหลุม (ถ้าใครมีรังถึงที่ใหญ่มาก) หรือ นึ่งทั้งพิมพ์ถ้วยอลูมิเนียมเลย เพื่อรูปทรงของซาลาเปาที่สวยงาม ไม่ย้วยห้อย ใช้ไฟอ่อนถึงกลาง ไม่ใช้ไฟแรงเพราะใส้คัสตาร์ดจะแข็งแทนที่จะเยิ้ม (อันนี้ประสปการณ์ตรง นึ่งรอบแรกกลายเป็นใส้ครีมธรรมดาแต่มีรสไข่เค็ม แอบเซ็ง แต่ยังไม่ท้อ รอบสองเลยลดจากไฟแรงมากเป็นไฟอ่อนถึงกลาง ผลที่ได้ไม่ผิดหวัง อิอิอิ) ใช้เวลาในการนึ่งแต่ละรอบประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วยกลง เสริฟร้อน ง้างส้อมรอจิ้มได้เลยค่า
 
 
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า
 
 

2013/04/13

Crispy spiral curry puff, yummy and easier than you think

 
 
กลับมาอีกแล้ว ไม่อยากทิ้งการเขียนบล็อคเอาไว้นานเกิน เดี๋ยวไฟมอดแล้วจะพาลขยาดหายหน้าหายตาไปอีกรอบ อัพบล็อคคราวนี้เน้นน้อยแต่แน่นปึ้ก เพราะมือมันฝืดเขียนไม่ค่อยจะลื่นไถล เอาไว้ปรับตัวได้ซะก่อน จะร่ายยาวเป็นปาฐกถาเต็มหน้าแน่นอน
อุ่นเครื่องแบบเบาๆ ด้วยของที่หากินทั่วไปได้ง่ายอย่าง กะหรี่ปั๊บ ที่ขั้นตอนการทำจุกจิกนิดหน่อยแบบไม่น่าเกลียดนัก ทั้งๆ ที่หาซื้อได้ไม่ลำบากแต่ยังอยากหน้าตั้งตาลงมือทำกินเองก็เพราะว่าที่ขายกันไม่มีใส้อย่างที่ชอบ แถมแป้งเยอะใส้น้อย เหม็นหืนน้ำมันอีกต่างหาก เมื่อลิ้นสูงและเรื่องมากก็จำใจต้องออกแรงเองโดยปริยาย
 
 
 
 
ส่วนของใส้ที่ทำคราวนี้เป็นใส้รวมสารพัดมิตรที่มีติดตู้เย็นอยู่ที่บ้าน เริ่มตั้งแต่เศษเบคอนที่เหลือติดถุง แปะก๊วย และเผือกนึ่งที่เหลือจากไหว้เชงเม้ง ลูกเกดอีกนิดหน่อย ผัดแบบแห้งๆ ปรุงรสแจ่มๆ แค่นี้ก็กินขาดแล้ว
 
 
เสน่ห์ของขนมชนิดนี้อยู่ที่ชั้นของแป้งที่มีความกรอบหอมเนย ใส้อร่อยๆ ยิ่งถ้าได้กินตอนร้อนๆ ทอดเสร็จใหม่ๆ อย่าบอกใครเชียว ตัวแป้งด้านนอกมันทั้งกรอบ ทั้งหอม เคี้ยวเสร็จแทบละลายหายไปในปาก แถมใส้ก็เยิ้มนุ่ม ไม่แข็งแห้งให้ระคายเหงือกสูงอายุของคนทำ ทำให้ตอนแรกที่คิดว่าจะแค่ชิมดูรสสักอัน เปลี่ยนเป็นนั่งกินทุกอันที่ทอดในกระทะแรกจนเกลี้ยง ทำเอาน้ำหนักพุ่งปรี๊ด กรรมจริงๆ ไม่น่าทำกินเองเลยซิ พับผ่า ใครไม่เชื่อว่าอร่อยเร่เข้ามาทำด้วยกัน มีแค่กระทะ กับน้ำมัน ทักษะไม่ต้อง เตาอบไม่ง้อ แล้วจะรออะไรอีก ใช่มั้ย
 
 
 
 
ใส้รวมมิตร
เบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็ก
แปะก๊วย
เผือกนึ่งหั่นเต๋า
ลูกเกด
หอมหัวใหญ่สับละเอียด
รากผักชี กระเทียม พริกไททุบสับละเอียด
เกลือ
ซีอิ๊วขาว
น้ำมันหอย
น้ำตาลนิดหน่อย
น้ำสะอาดนิดหน่อย
น้ำมันพืชสำหรับผัด
 
วิธีทำ
นำกระทะใส่น้ำมันตั้งเตาไฟอ่อนจนน้ำมันร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ กระเทียม พริกไท ลงไป ผัดให้หอม ใส่เบคอนตามลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่แปะก๊วย และลูกเกด ปรุงรสตามชอบ เติมน้ำสะอาดลงไป ปิดท้ายด้วยเผือกผัดให้เข้ากันรอจนน้ำที่เติมลงไปแห้ง ตักใส่ชามทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
 
 
 
 
แป้งชั้นใน
แป้งอเนกประสงค์            150 กรัม
เนยสดจืดตัดเป็นชิ้น          90 กรัม
เกลือ                                1/3 ช้อนชา
 
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงในชามผสม นวดให้เนียนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนใช้พลาสติกแรปห่อก้อนแป้งนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 30 นาที
 
 
 
 
 
แป้งชั้นนอก
แป้งอเนกประสงค์           300 กรัม
ไข่ไก่                                  1 ฟอง
น้ำสะอาด                        120 มล.
เกลือ                               2/3 ช้อนชา
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงในชามผสม นวดให้เนียนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนวางไว้ในชาม ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดคลุมปิดปากชามไว้ เพื่อไม่ให้ก้อนแป้งแห้ง
 
 
 
 
 
 
กะหรี่ปั๊บใส้รวมมิตร
แป้งชั้นนอก
แป้งชั้นใน
ใส้รวมมิตร
น้ำมันปาล์มสำหรับทอด
วิธีทำ
แผ่แป้งชั้นนอกออกเป็นแผ่นกลมๆ ให้มีขนาดพอจะห่อแป้งชั้นในได้จนมิด วางแป้งชั้นในลงไปตรงกลางแผ่นแป้งชั้นนอก ห่อปิดแป้งชั้นนอกให้มิด ใช้ไม้รีดแป้งรีดก้อนแป้งให้แผ่ออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
 
 
จากนั้นม้วนเก็บให้เป็นแท่งทรงกระบอก รีดแป้งแท่งทรงกระบอกออกเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นม้วนแผ่นแป้งกลับเป็นแท่งทรงกระบอก ใช้มีดตัดแบ่งแป้งเป็นก้อนๆ รูปทรงกระบอกตามแนวยาว
 
 
นำก้อนแป้งที่ได้มารีดแผ่ออกเป็นแผ่นกลมๆ ตักใส้ใส่ตรงกลางแผ่นแป้ง ทบแผ่นแป้งเป็นรูปครึ่งวงกลม ใช้นิ้วกดปิดขอบแป้งให้สนิท จับจีบตามขอบแป้งให้สวยงาม เรียงไว้บนจานรอทอด
 
 
ทอดกะหรี่ปั๊บโดยใช้น้ำมันปริมาณค่อนข้างมาก กะให้ท่วมตัวกะหรี่ปั๊บเวลาทอด ทอดด้วยไฟกลาง น้ำมันจะต้องร้อนก่อนที่จะหย่อนกะหรี่ปั๊บลงทอด ทอดจนกะหรี่ปั๊บเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ทานตอนยังอุ่นๆ จะดีที่สุด
 
 
 
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า
 
 
 

2013/03/30

Chicken Farm Bakers' Project # 47 : Ginger-Black Sesame Ice Cream, An Asian Combination



เป็นที่ปลาบปลื้มยิ่งนักที่บล็อคนี้ก็รอดพ้นจากการถูกดองเป็นมัมมี่เสียที หลังจากเก็บตัวงดออกสื่อเป็นเวลานานด้วยความขี้กียจของเจ้าของบล็อค แต่ไม่ได้หมายความว่าตลอดเวลาเก็บตัว นักกีฬาจะไม่ได้ลงสนามซ้อมนะจะบอกให้ ยังคงฝึกปรือวิทยายุทธให้แก่กล้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ไม่มีอาการตกประหม่าเวลาเกิดมีการประลองแบบฉุกละหุกขึ้น (ช่างเป็นการออกตัวที่น่าฟัง น่ารัก และน่าเอ็นดู จริงๆ พับผ่าซิเนอะเคอะ) และแล้วเทวดาบนฟ้าก็เข้าข้าง ประทานการบ้านทดสอบความฟิตมาให้ สุดแสนจะไฉไลรับซัมเมอร์ที่ร้อนระอุ ที่อุณหภูมิภายใต้แสงแดดปะทุเกือบจะครึ่งร้อยอยู่ร่อมร่อ ไม่ต้องเสียเวลาทายก็จะบอก โจทย์การบ้านที่ว่าจะเป็นอย่างอื่นไปเสียมิได้ นอกจากอาหารทิพย์ดับร้อนยอดฮิต "ไอศครีม" นั่นเอง