"พลูค๊าบเย็นนี้อยากกินไรลูก บอกม่าม๊าเร็ว เดี๋ยวม่าม๊าทำให้" หนุ่มน้อยนิ่งคิดซักพักก่อนที่จะอ้อมๆ แอ้มๆ ตอบกลับมาว่า "กินพิซซ่าได้ป่าวอ่ะม่าม๊า" ถามมาครึ่งอาทิตย์คำตอบก็แบบเดิมแค่น้ำเสียงตอนตอบแผ่วลงทุกวันแค่นั้น ไม่รู้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับร้านพิซซ่าต้องหาทางให้ได้กินมันทุกอาทิตย์ไป กินทีก็ไม่ต่ำกว่าครึ่งพัน กะแค่พิซซ่าถาดกลางหนึ่งถาด ปีกไก่โหลนึง เฟรนช์ฟรายหนึ่งที่ สปาเกตตี้หนึ่งจาน แล้วก็ขนมปังกระเทียมหนึ่งแถว ไม่รู้ว่าจะแพงไปไหน รู้สึกเสียดายเงินยังไงไม่รู้ เอางี้แล้วกันเย็นนี้แม่จัดการให้ โอเคมั้ย "เอาหน้าใส้กรอก เบคอน และก็ชีสเยอะๆ นะม่าม๊า หอมใหญ่ไม่ชอบ พริกหวานมันเหม็น ห้ามใส่" จัดแจงสั่งเบ็ดเสร็จ เผด็จการไปมั้ยลูกค๋า
แต่จริงๆ แล้วเข้าทางแม่มากๆ เพราะสองวันก่อนเคี่ยวซอสมะเขือเทศเอาไว้ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็เพียงแค่เอามะเขือเทศที่ลอกเปลือกออกและแคะเม็ดทิ้งกับหอมหัวใหญ่ซอยใส่ลงในโถปั่น ปั่นให้เนียนกิ๊ก เทใส่หม้อเคลือบ ยกตั้งเตาไฟให้เดือด ปรุงรสให้แจ่มด้วยเกลือ และก็น้ำตาล (เด็กๆ ชอบหวาน แต่ผู้ใหญ่คงไม่ต้อง) ลดไฟลงเหลือไฟอ่อน เคี่ยวให้งวดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ให้ข้นและเหนียวหน่อย ทิ้งให้เย็นแล้วนำใส่กระปุกเก็บไว้ในตู้เย็นกินได้เป็นเดือน
ตัวแป้งพิซซ่าวันนี้ขอบายเพราะไม่มีเวลาพักแป้งข้ามคืนในตู้เย็น มันกะทันหันเกินไป เปลี่ยนเป็นขนมปังแทนแล้วกัน สบายดีด้วยเพราะปล่อยให้เครื่องทำขนมปังมันนวดและพักให้ ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ได้โดขนมปังออกมาให้รีดและขึ้นรูป ส่วนเรื่องของสูตรขนมปังก็อาศัยคุณปุ๊ก dailydeliciousthai อีกแล้วครับท่าน เพียงแต่ส่วนของหน้าเป็นไอเดียลูกแค่นั้น แทบไม่ต้องได้ใช้สมองคิดเลย อาศัยแรงงานเป็นหลัก ถนัดนักแล
ขนมปัง
สูตรและวิธีทำดูได้ ที่นี่
ขนมปังหน้าพิซซ่า
ใส้กรอกชีสหั่น 3 ชิ้น
เบคอนสตริปหั่น 2 เส้น
ชีสแผ่น 3 แผ่น
ซอสมะเขือเทศ
น้ำสลัด
ผงออริกาโน
วิธีทำ
แบ่งโดที่ได้ออกเป็น 6 ก้อนเท่าๆ กัน นวดไล่ฟองอากาศ พักโดให้คลายตัวโดยใช้ผ้าชื้นๆ ปิดผิวหน้ากันแห้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที ระหว่างนี้เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบนล่าง ทิ้งไว้ ทาเนยให้ทั่วพิมพ์
นำโดที่คลายตัวแล้วมารีดให้แบน กรุในพิมพ์ที่เตรียมไว้ ทาซอสมะเขือเทศให้ทั่ว โรยทับด้วยใส้กรอกและเบคอนที่หั่นเตรียมไว้ ทับด้วยชีสครึ่งแผ่น ราดด้วยน้ำสลัด ทำจนครบทุกก้อน นำเข้าเตาอบได้เลยโดยไม่ต้องพักแป้งให้ขึ้น อบประมาณ 10-12 นาที ก็พร้อมรับประทาน โรยผงออริกาโน่นิดๆ กินคู่กับซอสมะเขือเทศทั้งๆ ที่ยังร้อนๆ ได้อารมณ์เหมือนกำลังกินพิซซ่าที่ร้านเป๊ะ
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า
No comments:
Post a Comment