Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

2011/12/19

A taste of autumn in japan; Kuri daifuku

อยากกินไดฟุกุ อยากกินไดฟุกุ อยากกินไดฟุกุ แต่ไม่ได้อยากกินแบบที่มีขายในยามซากินะ อยากกินแบบที่เคยกินที่ญี่ปุ่นง่าาา มันเป็นแบบที่ด้านนอกหุ้มห่อด้วยแป้งโมจิ บรรจุครีมชานทิลลิ่ที่ไม่หวานจัด สอดใส้ด้านในอีกทีด้วยผลไม้ มีทั้งสตรอเบอร์รี่ องุ่น และก็กล้วย  ปิดตูดอีกทีด้วยสปันจ์เค้ก ที่เคยจับยัดเข้าปากครานั้นเป็นสตรอเบอร์รี่ อร่อยมาก อยากกินอีก เฮ้อ! หัวสูงไปรึป่าว จะหากินได้ที่ไหน ก็ที่นี่มันบ้านนอกไม่ใช่เมืองกรุงซะด้วยซิ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียคงไม่ได้กิน   หาหนทางเอาเองก็ได้ ในเนตมีออกถมวิธีทำอ่ะ แต่วัตถุดิบนี่จะหาได้ป่าวไม่รู้ วัดดวงเอาแล้วกัน


เปิดปุ๊บก็เจอปั๊บอากุ๊กกู๋ของทุกคนไม่เคยทำให้ผิดหวัง รีบรุดสอดส่ายสายตาอ่านตรงวัตถุดิบทันที โอ้แม่เจ้าแป้งโมจิ ข้าน้อยจะเสาะหาได้ที่ไหนอ่ะเนี่ย ปิดตาขวาสอดตาซ้ายอ่านต่อไปอีกนิด อืมมมม มันบอกว่าใช้แป้งข้าวเหนียวได้นี่นา เสร็จตูล่ะทีนี้ เต็มบ้านเลยแป้งข้าวเหนียวเนี่ย ตุนเอาไว้ทำบัวลอย กลัวว่าถ้าใช้แต่แป้งข้าวเหนียวอย่างเดียวเนื้อน้องโมจิจะไม่ใสเด้ง แอบตักแป้งท้าวยายม่อมลงไปคลุกด้วยดีกว่า เผื่อจะแทนกันได้



แต่ทีนี้พอลงตัวกับแป้งโมจิแล้วก็มาตระเวนหาตัวสตรอเบอร์รี่กัน ฤดูนี้หาสตรอเบอร์รี่นอกลูกฉ่ำๆ ในนครปฐมเนี่ยนะ ฝันไปเหอะ ยากยิ่งกว่างมเข็มที่ไม่เคยตกลงไปในมหาสมุทรซะอีกไม่มีทางเจอหรอก มีแต่สตรอเบอร์รี่เชียงใหม่เต็มไปหมด ไม่ใช่ว่ารังเกียจของไทยไฝ่หาแต่ของนอกหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันเปรี้ยวจริงเปรี้ยวจัง กินไม่ไหว เข็ดฟัน เลยต้องขอบาย เมื่อหาสตรอเบอร์รี่ที่ถูกใจไม่ได้ก็จำต้องเปลี่ยนใจกะทันหันเป็นอย่างอื่นแล้วกัน กลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน มามองหาของในครัวเรือนแล้วสำเร็จโทษมันดีกว่า ไม่เปลืองเงนซื้อใหม่ดี เอางี้สอดใส้เกาลัดก็แล้วกัน แจ่มไม่หยอกค่า มามะตามมาห่อด้วยกัน


สปันจ์เค้กวานิลลา
ทำแค่ 1/2 สูตร ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่ ตัดเป็นวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 1/2 นิ้ว 5 ชิ้น ที่เหลือเก็บไว้ทำขนมอย่างอื่นได้อีก


ครีมชานทิลลี่
ทำแค่ 1/4 สตร ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่


แป้งโมจิ
แป้งข้าวเหนียว       90 กรัม
แป้งท้าวยายม่อม   10 กรัม
น้ำตาลทราย           50 กรัม
น้ำสะอาด              150 มล.
แป้งข้าวโพดสำหรับเอาไว้รองรีดแป้งเพื่อไม่ให้แป้งติด
วิธีทำ
เตรียมพื้นที่ที่จะเอาไว้รีดแป้งโมจิ โดยโรยแป้งข้าวโพดหนาๆ หน่อยบนแผ่นซิลิโคนรองอบรอไว้
นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงในชามทนความร้อน คนให้เข้ากันจนไม่เหลือเป็นก้อนแป้ง นำเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุดประมาณ 2 นาที นำออกมาใช้ไม้พายคนให้เข้ากันอีกนิด ขูดก้อนแป้งเหนียวๆ ร้อนๆ ลงบนแผ่นซิลิโคนที่โยแป้งข้าวโพดเอาไว้ โรยแป้งข้าวโพดทับด้านบนของแป้งโมจิด้วย ใช้ไม้รีดแป้งโมจิให้แผ่ออกไป โดยกะให้แป้งที่รีดได้มีความหนาไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร ตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเท่าๆ กัน 5 แผ่น พักไว้ให้พออุ่นแต่ไม่ถึงกับเย็น เพราะเดี๋ยวจะห่อปิดลำบาก


หาถ้วยน้ำชาเล็กๆ นำแผ่นโมจิที่ได้กรุลงในถ้วย บีบครีมชานทิลลี่ลงไป วางเกาลัดลงไป กดให้จมลงในครีมนิดหน่อย ปิดทับด้วยครีมชานทิลลี่อีกครั้ง วางแผ่นสปันจ์เค้กที่ตัดไว้ลงไป ห่อแป้งโมจิให้มิด พลิกกลับหัวลงบนจาน ใช้พลาสติกแรปปิดคลุมเอาไว้ นำเข้าตู้เย็นรอไว้ก่อน ทำจนหมดแป้งโมจิ รีบแจกจ่ายให้หมดในเวลาไม่นาน สามารถเก็บไว้ทานได้โดยใช้พลาสติแรปปิดคลุมแช่เย็นเอาไว้ แต่ไม่ควรข้ามวัน เพราะเดี๋ยวแป้งโมจิจะแข็งขึ้น แล้วจะพาลเสียอรรถรสในการกิน




อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

No comments: