วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันพระ คุณสามีสุดที่รักซื้อแก้วมังกรมาไหว้พระ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีใครค่อยโปรดผลไม้ชนิดนี้นัก รสชาดมันหวานแบบจืดๆ ปะแล่มๆ ยังไงก็ไม่รู้ วันพระผ่านไปตั้งสามวันแล้ว แก้วมังกรอยู่ที่ไหนมันก็ยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม ไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนย้ายไปอยู่ในท้องของใครคนใดคนหนึ่ง เมียงๆ มองๆ อยู่ด้วยความเสียดายทั้งเงิน เสียดายทั้งของ มองเทาไหร่มันก็ไม่ยักกะลดจำนวนลง ไม่ได้การซะละมั้ง เอาไปปู้ยี่ปู้ยำทำอะไรกินดี
จะเอาไปทำเค้กทำเป็นสิบก้อนก็คงยังไม่หมด มันเล่นมีเยอะซะขนาดนั้น มีหนทางดับทุกข์ใดบ้างหนอที่จะทำให้ทั้งถาดนี้อันตรธานหายไปในพริบตา เหลือบไปเห็นเครื่องทำไอศครีมที่พี่สะใภ้ของคุณสามีช็อปมาตอนสมัยที่กำลังเห่อ นอนแอ้งแม้งอยู่ในซอกกรุสมบัติ รู้ในทันทีเลยว่าจะถอดรูปพ่อแก้วมังกรไปเป็นอะไร จัดการงัดออกมาปัดฝุ่น ขัดสีฉวีวรรณเครื่องเคราของมันให้พร้อมใช้งาน แล้วรีบลอกคราบแก้วมังกรในบัดดล
หยิบแก้วมังกรชิ้นเล็กๆ ออกมาเทสต์ เป็นดังคาด จืดสนิท ไร้รสชาด อยากจะหัวเราะเยาะคุณสามีมาตะหงิดๆ แหม๊!!!! คุณเธอบอกนักบอกหนาว่าแม่ค้าบอกว่าหวานเจี๊ยบ อพิโถ อพิถัง โดนแม่ค้าหลอกอีกตามเคย บอกให้เชื่อเมียดั๊นเชื่อแม่ค้า งานนี้คงต้องมีการแต่งรสชาดเพิ่มกันหน่อย หย่อนน้ำตาลลงไปนิด ตามด้วยน้ำมะนาวอีกหน่อย แจ่มค่า
ไอศครีมแก้วมังกร
แก้วมังกร 7 ลูก
น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ลูก
วิธีทำ
ลอกเปลือกแก้วมังกรออก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ลงในโถปั่น เติมน้ำมะนาวและน้ำตาลลงไปแค่ 5 ช้อนโต๊ะ ก่อน ปั่นให้เข้ากันไม่ต้องละเอียดมาก ชิมรสชาดตามถ้ารสอ่อนไปก็เพิ่มส่วนของน้ำตาลที่เหลือ แต่ถ้าใส่ส่วนของน้ำตาลจนหมดแล้วชิมรสแล้วยังไม่ถูกใจก็สามารถเพิ่มน้ำตาลและน้ำมะนาวได้ตามชอบ
เทใส่ในเครื่องทำไอศครีม ปล่อยให้เครื่องทำงานไปจนเสร็จ ไอศครีมที่ได้จะยังไม่แข็งพอที่จะรับประทานได้เลย ต้องตักไอศครีมที่ได้ใส่ลงในกล่องที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าช่องแช่แข็งอีกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นก็จัดการเรียกสมัครพรรคพวกมากำจัดได้เลย
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า
No comments:
Post a Comment