Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

2011/05/21

Yogurt pancake like we used to have for hotel breakfast


จู่ๆ พ่อเจ้าประคุณลูกชายนึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ทั้งๆที่สะลืมสะลือจวนจะน็อคอยู่แล้ว ยังอุตส่าห์นัวเนียอ้าปากพะงาบๆ ออดอ้อนบอกคุณแม่ขาว่าอยากรับทานแพนเค้กเป็นอาหารเช้าวันพรุ่งนี้แบบตอนที่อยู่โรงแรมบ้าง (เป็นลางบอกเหตุว่าอนาคตข้างหน้าไม่พ้นต้องได้ลูกสะใภ้ผมทองแน่เชียว) แต่ไม่ทิ้งคอนเซป เอาใจยากอีกตามเคย แบบว่าไม่ราดน้ำผึ้ง ไม่เอาเมเปิลไซรัป (ไม่ชอบกลิ่นมันพ่อเจ้าประคุณลูกชายเค้าบอก) แต่จะเทคาราเมลจนชุ่มโชก ราดซอสช็อคโกแลตด้วย แล้วโปะด้วยวิปปิ้งครีมกับผลไม้เล็กๆน้อยๆ พอกล้อมแกล้ม (ไอ้อันหลังนี้คุณแม่ขาหักคอให้ต้องมี เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน) ไม่เป็นไรสำหรับสุดที่รักเรื่องมากนิดๆหน่อยๆอภัยให้ได้อยู่แล้ว จริงๆแล้วเข้าทางคุณแม่ขาเลยตะหากละค้าคุณลูกขา ก็มันทั้งง่ายทั้งสบายกว่าควงตะหลิวทำกับข้าวซะอีก จัดไปอย่าได้ขัดเดี๋ยวพี่เค้าเปลี่ยนใจ

โยเกิร์ตแพนเค้ก
แป้งสาลีอเนกประสงค์     1/2 ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ        1 ถ้วยบรรจุ
ไข่ไก่                    2 ฟอง
น้ำตาล                1 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ                    1 ช้อนชา
วานิลลา                 1 ช้อนชา
ผงฟู                    1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา             1/2 ช้อนชา
เนยสด (สำรับทากระทะก่อนทอด)
วิธีทำ
นำของแห้งทั้งหลายลงชามผสมใช้ตระกร้อมือคนให้เข้ากัน ทำหลุมเอาไว้ตรงกลาง
ผสมโยเกิร์ตกับไข่ตีให้พอเข้ากัน เทลงตรงกลางหลุมที่ทำไว้ คนผสมให้เข้ากัน ไม่ต้องถึงกับต้องคนให้เนียน (เดี๋ยวจะได้โรตีแทนแพนเค้กเพราะมันจะเหนียวค่า) ทิ้งส่วนผสมที่ได้อย่างน้อย 5 นาที พอให้ส่วนผสมมันเพิ่มปริมาณขึ้น และมีฟองอากาศปุดๆ (ผลอันเนื่องมาจากปฏิกิริยาของเบกกิ้งโซดากับโยเกิร์ต)เป็นอันใช้ได้


ตั้งกระทะแบนเป็นแบบนอนสติ๊กได้ยิ่งดีบนไฟอ่อน ให้กระทะพอร้อน ตักเนยสดหย่อนลงไปกะแค่พอเคลือบก้นกระทะบางๆ พอกระทะร้อนได้ที่ตักส่วนผสมของแพนเค้กประมาณ 1/3 ถ้วยตวง เทหยอดลงไป (แต่ที่บ้านมีวงแหวนรูปกลม รูปดาว รูปหัวใจ เลยจัดมาใช้ไม่ไห้น้อยหน้ากัน) รอจนกระทั่งด้านล่างของแพนเค้กเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีฟองอากาศปุดขึ้นมาบนผิวด้านบน ก็จัดการพลิกบนลงล่างได้เลย รอให้ด้านล่างเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ (ใช้เวลาน้อยกว่าด้านแรก) ตักขึ้นพักในจานได้เลย
ทำแบบเดียวกันนี้ไปจนหมดส่วนผสมของแพนเค้ก อย่าลืมตักเนยสดหย่อนลงไปก่อนทุกครั้งก่อนหยอดส่วนผสมของแป้งแพนเค้ก


ซอสคาราเมล
น้ำตาล        200 กรัม
น้ำ             2 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม      200 มล.
เกลือ          1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
ผสมน้ำตาล น้ำ และเกลือลงในหม้อทรงสูงหน่อย คนให้เข้ากันไม่ต้องถึงกับให้น้ำตาลละลาย นำขึ้นตั้งไฟอ่อนถึงกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม (แล้วแต่ความชอบ ถ้าเข้มนิดรสชาดก็ออกขมหน่อย) ยกลงจากเตา
นำวิปปิ้งครีมเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที พอให้ร้อนแบบมีฟองปุดๆ รอบๆ เทวิปปิ้งครีมที่ร้อนลงไปในส่วนของน้ำตาลไหม้  ควรใส่ถุงมือและยืนอยู่ห่างหม้อเอาไว้เมื่อทำขั้นตอนนี้ เพราะมันจะเดือดฟู่ขึ้นมาสูงมาก นั่นคือสาเหตุว่าทำไมต้องใช้หม้อทรงสูง (เดี๋ยวมันจะล้นนั่นเองค่า) คนให้เข้ากันอีกครั้ง รอให้เย็น เทคาราเมลที่ได้ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท แล้วถึงจะนำเข้าตู้เย็นสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน

ซอสช็อคโกแลต
ดาร์คช็อคโกแลต      100 กรัม
วิปปิ้งครีม             50 มล.
เนยสด                1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำดาร์คช็อคโกแลตและวิปปิ้งครีมเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาทีให้ร้อน นำออกมาคนให้ช็อคโกแลต ละลาย หย่อนเนยสดลงไปคนให้ละลายเข้ากัน เก็บเอาไว้ราดขนมที่โปรดปราน

ส่วนตกแต่ง
ซอสคาราเมล
ซอสช็อคโกแลต
วิปปิ้งครีม
ผลไม้สดตามชอบหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
วิธีทำ
ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู (ไม่ต้องใส่น้ำตาลเพราะคาราเมลก็หวานพออยู่แล้ว) วางแพนเค้กลงในจาน ตักวิปปิ้งครีมตามลงไป โรยด้วยผลไม้ที่ชื่นชอบ ราดคาราเมลและซอสช็อคโกแลต ส่งตรงไปที่โต๊ะ รับทานได้เลย
*หากใครไม่ชอบคาราเมลก็เปลี่ยนเป็นราดน้ำผึ้ง เมเปิลไซรัป ชอคโกแลตกานาซ เนยถั่ว พวกพาร์ลีนทั้งหลาย หรือจะเป็นซอสผลไม้ก็ได้ ตามแต่ศรัทธา*
*ในส่วนของแป้งแพนเค้กก็สามารถที่จะใส่ผลไม้สด หรือแห้งลงไปได้ อย่างเช่นพวกตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย ลูกเกด ลูกพรุน เป็นต้น แต่ต้องใส่หลังจากที่พักส่วนผสมให้ขึ้นแล้วหนึ่งครั้ง จึงค่อยๆตะล่อมผลไม้สดหรือแห้งที่เราต้องการลงไป แล้วพักให้ขึ้นอีก 5 นาที เป็นอันใช้ได้*

No comments: