Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

2012/04/22

Summer time begins with mango-coconut milk creme chiboust layered delight


สัญญาณอีกอย่างนึงที่บ่งว่าหน้าร้อนที่บ้านเราเข้ามาเยือนแล้วนั่นก็คือไม่ว่าจะหันทางซ้ายก็เห็นแม่ค้าขายมะม่วงสุก เบือนหนีไปทางขวาก็ยังคงเจอแม่ค้าจัดกระจาดมะม่วงสุก ขนาดที่ว่าอุตส่าห์แหงนหน้าหนีขึ้นฟ้าก็ไม่พ้นเห็นมะม่วงสุกที่ยังไม่ได้สอยลงจากต้นอยู่ดี มองไปทางไหนก็เหลืองนวลตาไปซะหมด มีทั้งอกร่อง น้ำดอกไม้ เขียวเสวย โชคอนันต์ และอื่นๆ ที่ไม่ทราบสายพันธ์ุอีกนับไม่ถ้วน เมนูยอดฮิตในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นข้าวเหนียวมะม่วง ที่กล้าพนัันได้เลยว่าไม่มีครัวเรือนใดที่พลาดโอกาสบริโภคเมนูนี้ไปเป็นแน่แท้
ยิ่งที่บ้านมีต้นมะม่วงเองยิ่งหนักใหญ่ กินมันได้ทุกวันด้วยความเสียดาย จนตอนนี้ตัวเปลี่ยนสีไปใกล้เคียงสีของมะม่วงอยู่แล้ว แหม๊ก็ลูกมะม่วงมันขยันสุกได้สุกดี สุกมันทุกวัน วันละสิบๆ ลูก ครั้นจะเอาไปขายก็ไม่สันทัดซะด้วย เลยต้องหาวิธีกินแบบใหม่ให้มันคล่องคอยิ่งขึ้น
ผู้บริโภคหลักของเมนูใหม่ที่จะคิดประดิดขึ้นนี้ส่วนใหญ่สูงวัยและไม่โปรดครีมเลี่ยนๆ อันได้แก่พ่อแม่สามีและบรรดาเครือญาติ แต่ศรีสะใภ้ได้โล่เยี่ยงเราดันอยากจะทำเค้ก เลยต้องทำการบ้านหนักหน่อยว่าจะให้มันออกมารูปแบบไหนดี ที่ทั้งเว่อร์ เยอะ และอร่อย



วาดมโนภาพในอากาศไว้คร่าวๆ ว่าอยากให้มันออกมาเป็นชั้นๆ หลายชั้นหน่อย โดยชั้นล่างล็อคไว้ให้เป็นของ "pistachio joconde" เพื่อให้ความรู้สึกแตกต่างเวลาที่เคี้ยวในปาก ชั้นถัดมาเป็นของมูสที่ต้องไม่มีส่วนผสมของครีมอยู่เลย แต่อยากให้มีรสชาดของกะทิเพื่อให้คนแก่เกิดความคุ้นเคย แทรกด้วยเนื้อมะม่วงสุกลงไปให้มันแน่นเอี๊ยดแบบไม่หวงของเพราะว่ามีเยอะ ว่าแต่ในส่วนของตัวมูสหากไม่ใช้ครีมแล้วมันจะเป็นมูสได้ไงเนี่ย เกาหัวแกร๊กๆ อยู่เกือบครึ่งค่อนวันแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าจะลองใช้วิธีทำเหมือนมูสช็อคโกแลตดีกว่า คือใช้เมอร์แรงจากไข่ขาวเป็นเบส จากนั้นก็ผสมพาสตรี้ครีมที่ใช้กะทิแทนนมลงไปในเมอร์แรง และเพิ่มความคงตัวของเนื้อมูสที่ได้ด้วยเจลาติน ด้วยความวิตกจริตในความเป็นไปได้ทำให้ต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากโลกไซเบอร์ เลยทำให้พบกับคลังความรู้ใหม่ที่กล่าวถึงการทำครีมพิเศษชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมที่ชื่อว่า "saint honore" เจ้าครีมชนิดนี้มีชื่อว่า "creme chiboust" มันช่างมีขั้นตอนละม้ายคล้ายกับสิ่งที่คิดจะทำเป็นอย่างยิ่ง และข้อมูลที่ได้รับมันช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กล้าที่จะเสี่ยงทำต่อ
จบจากชั้นของมูสไปแบบทุลักทุเล ชั้นต่อไปก็คิดว่าจะใช้บริการสปันจ์เค้กวานิลลานิ่มๆ จากนั้นปิดท้ายแบบสวยๆ ด้วยชั้นของเยลลี่มะม่วงสีเหลืองนวล อืมมมม แค่คิดแต่ภาพก็หมดแรงและหมดวันแล้ว ดังนั้นขนมหวานชิ้นเริ่ดชิ้นนี้จึงต้องใช้เวลาถึงสองวันเต็มๆ กว่าจะได้อวดโฉมให้ได้ฮือฮา (รึเปล่า) อย่ามัวแต่ชักช้ารีบมาเปลี่ยนมะม่วงสุกธรรมดาๆ ให้ดูน่าค้นหายิ่งขึ้นก่อนที่จะมะม่วงมันจะโดนกร้อนจนหมดต้นกันดีกว่านะค้า


Pistachio joconde
ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่

สปันจ์เค้กวานิลลา
ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่

Coconut milk creme chiboust
ไข่แยกแดง-ขาว       1 ฟอง
แป้งอเนกประสงค์     1 ช้อนชา
หัวกะทิ                  1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาล                  1/3 ถ้วยตวง
เจลาตินผง               1 ช้อนชา
น้ำสะอาดเย็น           1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ใส่เจลาตินลงในน้ำสะอาดเย็นพักไว้ จากนั้นนำไข่แดง และน้ำตาลใส่ลงในชามสเตนเลส ใช้ตะกร้อมือตีไข่และน้ำตาลจนข้นและสีซีดลง เติมแป้งลงไปคนให้เนียนเข้ากันจากนั้นจึงเทหัวกะทิลงไป คนให้เข้ากันพักไว้
นำหม้อใส่น้ำความสูงประมาณ 1 นิ้ว ขึ้นตั้งไฟให้เดือด พอน้ำเดือดลดไฟลงให้อ่อนที่สุดให้น้ำในหม้อแค่พอเดือดตรงขอบข้าง นำชามที่มีส่วนผสมของไข่แดงและหัวกะทิ วางไว้บนปากหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นขึ้น ใส่เจลาตินที่ซับน้ำจนพองตัวลงไป คนให้ละลายเข้ากัน ยกชามลงพักไว้โดยยังคงเปิดเตาให้น้ำยังคงเดือดอยู่
เตรียมชามสเตนเลสที่แห้งและสะอาดอีกหนึ่งใบใส่ไข่ขาวและน้ำตาลลงไป จากนั้นปิดเตาอาศัยเพียงไอน้ำร้อนๆ วางชามไข่ขาวลงบนปากหม้อใช้เครื่องตีแบบมือถือตีด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 2 นาที จากนั้นยกชามออกมาจากปากหม้อ เปลี่ยนความเร็วของเครื่องตีแบบมือถือเป็นความเร็วกลางตีจนเมอร์แรงไข่ขาวตั้งยอดแข็ง ตัวเมอร์แรงอุ่นจนเกือบเย็น
แบ่งเมอร์แรงที่ได้ออกมาหนึ่งในสาม ตะล่อมรวมกับส่วนของครีมไข่แดงให้พอเข้ากัน แล้วค่อยตะล่อมเมอร์แรงที่เหลือลงไป ตะล่อมให้เนียนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว พักไว้




เยลลี่มะม่วง
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก   1 ลูก
เจลาตินผง                 2 ช้อนชา
น้ำสะอาดเย็น             2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว                    1 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
ใส่เจลาตินลงในน้ำสะอาดเย็นพักไว้ ปอกเปลือกมะม่วงออก นำเนื้อมะม่วง น้ำมะนาว และเกลือใส่ลงในโถปั่น ปั่นให้เนียนละเอียด จากนั้นนำเจลาตินที่ซับน้ำจนพองแล้วเข้าไมโครเวฟประมาณ 20 วินาที ให้ละลาย เทลงในโถปั่น ปั่นต่อให้เข้ากันดี พักไว้


เค้กมะม่วงสดมูสกะทิ
pistachio joconde ตัดตามขนาดของพิมพ์      1 ชิ้น
สปันจ์เค้กว่นิลลาตัดตามขนาดของพิมพ์        1 ชิ้น
creme chiboust                                               1 สูตร
เนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้หั่นเป็นชิ้น                   1/2 ลูก
เยลลี่มะม่วง                                                    1 สูตร
วิธีทำ
กรุฐานของพิมพ์ด้วย pistachio joconde จากนั้นเทส่วนของ creme chiboust ลงไป วางเรียงชิ้นมะม่วงลงไป เลี่ยให้เรียบเสมอกัน ทับด้วยชิ้นสปันจ์เค้กวานิลลา ปิดท้ายด้วยเยลลี่มะม่วง นำเข้าตู้เย็นรอให้เซตตัวข้ามคืน นำออกจากพิมพ์ ค่อยๆ ใช้มีดฟันเลื่อยสไลด์เค้กออกเป็นชิ้นๆ ตามจำนวนผู้บริโภค อวดอ้างสรรพคุณนิดหน่อย ก่อนอนุญาตให้ตักเข้าปาก




อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า

No comments: