Chicken farm bakers' project # 39 : Mon Entremets: Everything starts from basic ; Apple crumble latte mousse cake inspired by Starbucks®

โอ้แม่เจ้าโว้ยหายหน้าหายตาไปจากบล็อคเกือบเดือนเพื่อไปปฏิบัติภารกิจพิชิตโลกที่เกาหลีและญี่ปุ่น กลมานอนหงายเหงือกหงายคางอยู่กะเหย้าเฝ้ากะเรือนได้เกือบอาทิตย์ คิดว่าคงเสวยสุขพอแล้วปัดฝุ่นทำการบ้านฟาร์มไก่เดือนที่แล้วของคุณปุ๊ก dailydeliciousthai  ดีกว่า อัพบล็อคขึ้นมาหน้างี้หงายเลยอันเก่ายังไม่ได้ส่ง โฮสท์คนใหม่อย่างคุณก้อย bake-aholic ก็ป้อนโจทย์การบ้านใหม่ซะแล้ว ไม่ได้การละต้องเดินเครื่องด่วนค่า

ด้วยความที่ได้รับทราบโจทย์การบ้านจากคุณปุ๊กตั้งแต่ก่อนไปตะลอน ทำให้การบุกน้ำลุยกินครั้งนี้เป็นแบบแอบกังวลนิดๆ ก็โจทย์มันยากมากมาย ให้ทำขนมที่ยุ่งยากจากการนำสิ่งที่ง่ายๆ มารวมกัน และบังคับว่าจะต้องมีสิ่งง่ายๆ อย่างต่ำ 4 อย่าง โดยหนึ่งในนั้นต้องเป็นสปันจ์เค้ก หรือ biscuit joconde โอววววแค่คิดก็ขนแขนสแตนอัพเสียแล้ว แถมสมาชิกแต่ละคนก็ครีเอทีฟทั้งน้าน เลยทำให้ออกอาการเกร็งกันตัวโก่งเลยทีเดียว พยายามเบิ่งสองตาหาแรงบันดาลใจตลอดทุกเส้นทาง แป๊กทุกครั้งที่ตั้งใจ หายังไงก็ไม่ได้ สุดท้ายมาจอดเทียบท่าเอาตอนใกล้จะกลับ

เรื่องมันมีอยู่ว่าปกติอยู่บ้านมิค่อยมีโอกาสได้ไปซดไอ้เจ้ากาแฟสัญชาติอเมริกันกะเค้าซักเท่าไหร่ เพราะว่าอาศัยอยู่นอกเมืองหลวง ดังนั้นเมื่อลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกล แถมยังหากินง่ายแบบหัวถนนท้ายถนน จะทนอยู่เฉยก็ใช่ที่ เลยต้องขอเข้าไปละเลียดกะเค้าซักกะหน่อย เห็นเมนูที่มีขายเฉพาะช่วงตอนนั้นดูน่าสนใจเลยลองสั่งดู จิบไปจิบมารู้สึกว่าเข้าท่าดีเลยขอลอกเค้ามาทั้งดุ้น Apple crumble latte ขออนุญาตมา ณ ที่นี้อีกทีนะ Starbucks® ค๋า

 มันหอมเหมือนได้กินแอปเปิ้ลครัมเบิลกะกาแฟ

พอได้พล็อตก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องหาส่วนผสมหลักให้ครบก่อน ไหนๆ ก็ได้แรงบันดาลดลใจมาจาก Starbucks® ทั้งทีต้องให้มันครบสูตรหน่อย ได้ยินคุณปุ๊ก dailydeliciousthai ผู้ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Starbucks® เธอบอกว่าขณะนี้ Starbucks® ได้ถอยกาแฟพร้อมชงรุ่นใหม่ล่ามาแรงที่ชื่อว่า Starbucks VIA® ออกมาให้เหล่าบรรดาสาวกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แฟนพันธุ์เทียมอย่างเราเลยต้องไปเซาะหามาประดับบารมีซะหน่อย หากเป็นที่เมืองไทยอยากได้อะไรแบบรีบๆ ต้องใช้บริการ 7 Eleven แต่ถ้าหากเป็นที่ญี่ปุ่นก็ต้องนี่เลย Seven & I Holdings ครบเครื่องมาก แล้วก็ไม่ผิดหวังไปเมียงๆ มองๆ อยู่สองสามทีก็เจอสิ่งที่ต้องการแต่ที่นู้นเค้าใช้ชื่อว่า Starbucks VIA® Coffee Essence มีให้เลือกสามแบบตามแรงม้าของกาแฟ เลยหนีบรสกลางๆ ออกมา ก็พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าทางสายกลางอ่ะดีที่สุด ฮ่าๆๆๆๆๆ

พอได้ัวัตถุดิบหลักในมูสกาแฟแล้วต้องหาตัวชูรสซักหน่อย เห็นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากน้องหนู Baileys® Irish cream ตัวนี้เพราะคุณพี่มีน้องหนูนอนรออยู่ที่บ้านแล้วนั่นเอง ออกแนวประหยัดไม่ถนัดซื้อของเพิ่มซะงั้น ทั้งๆ ที่ปกติไม่ใช่

หมัดที่คิดว่าเด็ดทั้งสองอย่าง

ในเมื่อตัวเค้กนั้นได้ทำการลอกเลียนแบบไอเดียของคนอื่นมาแล้ว ของตกแต่งต่างๆ ที่จะมาคู่ควรกะเค้กนั้นไซร้ก็ต้องอาศัยวิชามารลอกคนอื่นด้วยอีกเช่นกัน   ส่วนตัวแล้วตั้งใจจะเปลี่ยนจากตัวครัมบ์ที่ใช้โรยหน้าออริจินัลแอปเปิ้ลครัมเบิลเป็นน้ำตาลรังผึ้งแทน (ขอเรียกงี้แล้วกันนะค้า มันดูบ้านนอกดี) อันนี้เลยมีโอกาสได้ใช้บริการสูตรของบุคคลวีไอพีอีกท่านนึง นั่นก็คือคุณบอล kittscake ปรมาจารย์ตั๊กม้อผู้เชี่ยวชาญด้านขนมอบบนโลกยุคดิจิตอลอีกคนที่มีโอกาสได้รู้จักผ่านสื่อออนไลน์ ขอออกตัวนิดว่ายังไม่ชัวร์ว่าเจ้าตัวเค้าจะนับเป็นคนรู้จักด้วยรึป่าว เพราะตู่เอาเองฝ่ายเดียว จากนั้นก็บรรจงบิดเบือนสูตรที่เพอร์เฟคแล้วของเจ้าของเค้าด้วยการเปลี่ยนจากคอร์นซีรัปเป็นอิงลิชทอฟฟี่ซีรัป (เพราะที่ในกรุสมบัติบ้านไม่มีคอร์นซีรัป) แล้วจัดแจงเพิ่มผงกาแฟลงไปเพื่อเบี่ยงเบนความจงใจและจะได้ไม่กระเทือนถึงสิทธิบัตรหากเจ้าของสูตรเค้าเกิดจดเอาไว้ อิอิอิอิ

ทำไปทำมาหมดเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ ทำเอาลูกน้อยกลอยใจทั้งสองหน่อเคืองค้อนขวับตาเขียวปั๊ดหาว่าคุณแม่คนดีที่หนึ่งไม่สนใจ และคุณพี่แม่บ้านที่อิมพอร์ตมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ฝากฝังสองหน่อเอาไว้ถึงกับลมแทบจับ เพราะประหนึ่งดูแลระเบิดเวลาสองลูกย่อมๆ เลยทีเดียว เอาล่ะถือว่าเกริ่นมายาวมากเกินไปแล้วสำหรับการอัพบล็อคในรอบหนึ่งเดือน เดี๋ยวผู้ที่เคยติดตามจะพาลเลิกติดตามไปซะก่อนเนอะเคอะ

สปันจ์เค้กกาแฟ

ใช้สูตรเดียวกับการทำสปันจ์เค้กวานิลลา ทำ 2 สูตร โดยเพิ่มในส่วนของกาแฟผงเข้าไปทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมผงกาแฟลงไปตอนที่ตีไข่กับน้ำตาลได้ที่ดีแล้ว วิธีทำและส่วนผสมของสปันจ์เค้กวานิลลาดูได้ ที่นี่

หลังจากได้แบทเทอร์ของเค้กแล้วให้แบ่งใส่ถาดอบสองถาด ถาดนึงเรียงแอปเปิ้ลฝานบนหน้าเค้กให้ทั่วก่อนนำเข้าอบ ส่วนอีกถาดอบแบบไม่มีแอปเปิ้ลได้เลย ถาดที่ไม่มีแอปเปิ้ลอบประมาณ 8-10 นาที ส่วนถาดที่มีแอปเปิ้ลให้อบต่อไปอีกประมาณ 3-5 นาที

นำเค้กออกจากถาด รอให้เย็นสนิท ตัดเป็นชิ้นเท่ากันทั้งแบบที่มีและไม่มีแอปเปิ้ลให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ

มูสกาแฟ

ไข่แดง                        2 ฟอง

น้ำตาลทราย             1/3 ถ้วยตวง

วิปปิ้งครีม                 1/3 ถ้วยตวง

วิปปิ้งครีม                   1 ถ้วยตวง

เจลาตินผง                 1 ช้อนชา

น้ำสะอาดเย็น             1 ช้อนโต๊ะ

กาแฟผงสำเร็จรูป       1 ช้อนโต๊ะ

Baileys® Irish cream 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

นำน้ำและเจลาตินใส่ลงในถ้วย รอให้เจลาตินดูดน้ำจนพองตัว นำเจลาตินที่พองตัวแล้วใส่ในไมโครเวฟประมาณ 15 วินาที นำออกมาคนให้ละลายดีอีกครั้ง เติมกาแฟผงลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้

นำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไฟให้เดือดรุมๆ ใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย และ วิปปิ้งครีม  1/3 ถ้วยตวง ลงไปในชามสเตนเลส นำชามขึ้นวางบนหม้อที่มีน้ำเดือดรุมๆ ใช้ตะกร้อมือคนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้นขึ้น นำชามลงมาจากเตา คนไปเรื่อยๆ ให้ส่วนผสมอุ่นลง จากนั้นเติม Baileys® Irish cream ลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นโดยใช้พลาสติแรปหน้าไว้

ตีวิปปิ้งครีมที่เย็นจัดอีก 1 ถ้วยตวงที่เหลือจนขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน แบ่งส่วนครีมกาแฟที่เย็นลงแล้วครึ่งนึงตะล่อมลงไป คนให้เนียนเข้ากัน

แอปเปิ้ลครัมเบิ้ลลาเต้มูสเค้ก

สปันจ์เค้กกาแฟแบบที่มีแอปเปิ้ลบนหน้า 1 ชิ้น

สปันจ์เค้กกาแฟ                                       1 ชิ้น

ซอสคาราเมล                                        1/4 ถ้วยตวง สูตรและวิธีทำดูได้ ที่นี่

มูสกาแฟ

วิธีทำ

วางสปันจ์เค้กกาแฟที่ไม่มีแอปเปิ้ลเป็นฐาน ทาซอสคาราเมลบนหน้าเค้กให้ทั่ว จากนั้นเทมูสกาแฟลงไป วางทับด้วยสปันจ์เค้กกาแฟแบบที่มีแอปเปิ้ลบนหน้า ใช้พลาสติกแรปปิดหน้าพิมพ์ นำใส่กล่องที่มีฝาปิดสนิทเข้าแช่ช่องฟรีซอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ให้มูสเซตตัวดี จากนั้นนำเค้กออกมาจากพิมพ์ ตัดแบ่งเป็นชิ้นเท่ากัน

คอฟฟี่ครันช์

อิงลิชทอฟฟี่ซีรัป   1/4 ถ้วยตวง

น้ำตาลทราย       1 1/2 ถ้วยตวง

กาแฟผงสำเร็จรูป     1 ช้อนโต๊ะ

เบกกิ้งโซดา             1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เตรียมปูถาดด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ที่ทาน้ำมันบางๆ กันติดเอาไว้ เพราะที่บ้านไม่มีแผ่นยางซิลิโคนรองอบ

นำทุกสิ่งอันยกเว้นเกกิ้งโซดาใส่ลงในหม้อทรงสูง นำขึ้นต้องไฟอ่อนถึงกลาง คนไปเรื่อยๆ จนละลายเข้ากันดีและส่วนผสมเดือดเป็นเหมือนคาราเมล หลังจากนั้นลดเหลือไฟอ่อน ใช้เวลาเคี่ยวตั้งแต่เริ่มประมาณเกือบ 10 นาที จากนั้นยกลงจากเตาเติมเบกกิ้งโซดาลงไป (เจ้าของสูตรบอกให้ร่อนก่อนแต่ไม่ทันได้อ่านเลยร่วงลงไปก่อนร่อน) คนให้เบกกิ้งโซดากระจายไปทั่วส่วนผสม ระหว่างนี้ส่วนผสมก็จะพองฟูขึ้นเรื่อยๆ (เนื่องจากมีฟองก๊าซที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของเบกกิ้งโซดาอยู่ด้านใน) ค่อยๆ เทส่วนผสมที่ฟูฟ่องลงบนถาดที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้เย็นสนิท ก่อนที่จะบุบเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใช้ตกแต่ง

ส่วนตกแต่ง

แยมแอปริคอท

ซอสวานิลลา ดูสูตรและวิธีทำได้ ที่นี่

คอฟฟี่ครันช์

วิธีทำ

ทาหน้าเค้กด้วยแยมแอปริคอทให้เงางาม โรยคอฟฟี่ครันช์ ตกแต่งจานด้วยซอสวานิลลา จัดวางให้หรู ยกไปอวด แล้วค่อยอนุญาตให้ทาน

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะค้า